หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาวะตลาด 1/2/55

สภาวะตลาดของวันนี้นะครับพบว่าตลาดบ้านเราไม่ยอมลงครับ กลับขึ้นมาเป็นขาขึ้นครับตลาดปิดบวกด้วยถึง 9 จุดในตอนบ่ายครับ มีแรงซื้อจากรายย่อยเข้ามาครับ วันนี้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและเริ่มมีการ short future บ้างแล้วครับ ทำให้คงค้างสัญญาเหลืออีก 8000 กว่าสัญญาที่เปิด long อยู่ครับ ดังนั้นจึงแนะนำทขายหุ้นที่ซื้อออกมาตามที่แนะนำไปนะครับ ดูจากลักษณะแล้วต่างชาติคงไม่ทุบหุ้น คงอยากเปลี่ยนมืออมากกว่าครับ เค้าจะได้ไปง่ายๆๆครับบ จึงแนะนำโปรยขายครับ ไม่ต้องขายใส่นะครับบ
จากราฟพบว่า set บ้านเรากำลังจะวิ่งเข้าชนแบนบนของกราฟนะครับ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1100 จุด ซึ่งก็คงให้ระมัดระวังครับ หุ้นยังคงไปต่อได้แต่ upside เหลือน้อยครับบบ เน้นไปเปนการทยอยขายนะครับบ

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

Macro weekly 23-27/1/55

รายงานภาวะเศรษฐกิจ
ประจำวันที่  23-27 ม.ค.  2555

--------------------------------------------------------------------------------
Economic Indicators: This Week :
         การส่งออกสินค้าในเดือน ธ.ค. 54 อยู่ที่ 17,016 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวที่ร้อยละ -2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -12.4 ตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า ยกเว้นสินค้าหมวดเกษตรกรรมที่หดตัวร้อยละ -6.7 โดยหมวดสินค้าที่ขยายตัวเร่งขึ้น ได้แก่ สินค้าเชื้อเพลิง และอุตสาหกรรมการเกษตรขยายตัวร้อยละ 40.6 และ 29.1 ตามลำดับ สำหรับการส่งออกรายตลาดพบว่า การส่งออกไปยังอาเซียน-5 นำโดยสิงคโปร์และอินโดนีเซีย รวมถึงประเทศอินเดียขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหลักอาทิ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังหดตัวที่ร้อยละ -2.8 -4.6 -3.5 และ -15.0 ตามลำดับ ส่งผลให้การส่งออกในปี 2554 มีมูลค่าอยู่ที่ 228,825 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ร้อยละ 17.2 ทั้งนี้ ราคาสินค้าส่งออกในเดือน ธ.ค. ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องที่รัอยละ 1.4 ผลจากการลดลงของราคายางพารา มันสำปะหลัง และเชื้อเพลิง ทำให้ราคาส่งออกทั้งปีขยายตัวที่ร้อยละ 5.6 ส่วนปริมาณยังคงหดตัวในอัตราลดลงที่ร้อยละ -3.4 ทำให้ปริมาณการส่งออกทั้งปีขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 11.0 ชะลอลงจากปีที่แล้วที่อยู่ร้อยละ 17.6
          การนำเข้าสินค้ารวมในเดือน ธ.ค. 54 อยู่ที่ 19,146 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 19.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -2.4 ตามการขยายตัวในอัตราเร่งในทุกหมวดสินค้า โดยสินค้าวัตถุดิบ สินค้าทุน สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าเชื้อเพลิงขยายตัวที่ร้อยละ 20.6 14.5 21.7 และ 22.0 ตามลำดับ ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าในปี 2554 มีมูลค่าอยู่ที่ 228,491 ล้านดอลลาร์สรัฐ หรือขยายตัวที่ร้อยละ 24.9 ทำให้ดุลการค้าเดือน ธ.ค. 54 ขาดดุล -2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดดุลต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกันและมากที่สุดในประวัติการณ์ และส่งผลให้ดุลการค้าในปี 54 ยังคงเกินดุลอยู่เล็กน้อยที่ 334 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.......Download รายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบ 
http://www.fpo.go.th/FPO/index2.php?mod=Content&file=contentview&contentID=CNT0007558&categoryID=CAT0000033

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555

กองทุนบัวหลวง ยังคงๆๆ

ยังคงถือหุ้นตัวเดิมนะครับ ณสิ้น 30/12/54
PTT
AOT
CPALL
BJC
BBL

Macro weekly 16-20/1/55

รายงานภาวะเศรษฐกิจ
ประจำวันที่  16-20 ม.ค.  2555

--------------------------------------------------------------------------------
Economic Indicators: This Week :
           ผลการเบิกจ่ายงบประมาณในเดือน ธ.ค. 54 สามารถเบิกจ่ายได้ทั้งสิ้นจำนวน 172.6 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในเดือน ธ.ค. 54 มีการเบิกจ่ายงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 151.6 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -0.3 แบ่งออกเป็น (1) รายจ่ายประจำจำนวน 137.4 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 2.8 (2) รายจ่ายลงทุนจำนวน 14.2 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -22.7 ทั้งนี้ การเบิกจ่ายที่สำคัญ ได้แก่ รายจ่ายเงินอุดหนุนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจำนวน 12.1 พันล้านบาท รายจ่ายเงินอุดหนุนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 10.5 พันล้านบาท รายจ่ายเงินอุดหนุนของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 4.3 พันล้านบาท และรายจ่ายเงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานครจำนวน 1.3 พันล้านบาท ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณปีก่อนเบิกจ่ายได้จำนวน 21.0 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 33.5 ทั้งนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 55 สามารถเบิกจ่ายได้ทั้งสิ้นจำนวน 489.8 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -18.1 นอกจากนี้ ผลการเบิกจ่ายแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในเดือนธ.ค. 54 มีจำนวน 2.6 พันล้านบาท โดยมีการเบิกจ่ายสะสมตั้งแต่เดือนก.ย. 52 – ธ.ค. 54 จำนวน 301.8 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายสะสมร้อยละ 86.2 ของกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติจำนวน 350.0 พันล้านบาท
            ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือน ธ.ค.54 พบว่า ดุลงบประมาณขาดดุลจำนวน -28.3 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน -8.7 พันล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการจัดสรรเงินให้อปท.ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ ที่เหลื่อมจ่ายจากปีงบประมาณก่อนหน้าจำนวน 5.0 พันล้านบาท และการถอนเงินฝากคลังของเงินกู้จากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 2.6 พันล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (ก่อนกู้) ขาดดุลจำนวน -37.0 พันล้านบาท ซึ่งในเดือนธ.ค.54 ไม่ได้มีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเนื่องจากยังไม่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ส่งผลให้ปริมาณเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 54 อยู่ที่ 264.7 พันล้านบาท.......Download รายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบ http://www.fpo.go.th/FPO/index2.php?mod=Content&file=contentview&contentID=CNT0007542&categoryID=CAT0000033

ภาวะตลาด 23/1/55

จากการที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดผันผวนในช่วงแคบๆๆ หุ้นน่าจะลงยากหน่อยอะครับ เพราะว่าต่างชาติยังคงซื้อหุ้นอยู่และเปิด long future เพิ่มอีกครับ ตอนนี้มีคงค้างเกือบ 6000 พันกว่าสัญญาครับ ยังไงหุ้นอาทิตย์หน้า ก็คงเงียบเหงาบ้างเพราะตลาดต่างประเทศปิดกันเยอะครับ สำหรับคนมีหุ้นอยู่ก็ขายไปครับ สำหรับหุ้นแนะนำลงทุน ยังคงเป็นหุ้นก่อสร้าง อาหาร และค้าปลีกครับ

วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

weekly news 9-13/1/55 ( กระทรวงการคลัง )

รายงานภาวะเศรษฐกิจ
ประจำวันที่  9-13 ม.ค.  2555

--------------------------------------------------------------------------------
Economic Indicators: This Week :
           รายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักจัดสรรให้อปท.) ในเดือน ธ.ค.54 มีจำนวนทั้งสิ้น 124.6 พันล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.1 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่า ขยายตัวร้อยละ 8.8 เนื่องจากมีการนำเข้าสินค้าประเภทรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ค่อนข้างสูงเพื่อทดแทนการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม สำหรับภาษีฐานบริโภคขยายตัวร้อยละ 12.2 และภาษีฐานรายได้ซึ่งรวมภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขยายตัวร้อยละ 12.1 โดยมีสาเหตุจากกรมสรรพากรได้อนุโลมให้ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถนำส่งภาษีในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย. 54 ให้สามารถนำส่งภาษีในเดือน ธ.ค.54
            ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ในเดือน ธ.ค. 54 มีมูลค่า 48.8 พันล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -1.0 และเมื่อขจัดผลทางฤดูการออกขยายตัวร้อยละ 8.9 ตามการขยายตัวของภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ที่จัดเก็บบนการบริโภคในประเทศและบนฐานการนำเข้า ที่ขยายตัวร้อยละ 8.9 และ 20.1 ตามลำดับ โดยได้รับปัจจัยบวกจากผลกระทบจากอุทกภัยคลี่คลายลง ทั้งนี้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในปี 54 ขยายตัวร้อยละ 11.7 จากปี 53.......Download รายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบ 
http://www.fpo.go.th/FPO/index2.php?mod=Content&file=contentview&contentID=CNT0007516&categoryID=CAT0000033

ภาวะตลาด 17/1/55

ตลาดวันนี้เกิดการ panic ของการที่ชาติสมาชิกในยุโรปถูกลดอันดับเครดิต 9 ประเทศ และมีข่าวก่อการร้ายครับ ตลาดเลยเปิดมาที่ประมาณลบ 5 จุดและถูกฉุดไปถึง 10 จุดด้วยกัน ตลาดยังคงมีความผันผวนอยู่มาก แนะนำ wait and see ครับ กำไรขายออกไปเรื่อยๆ เหมือนที่แนะนำอาทิตย์ก่อนครับ ต่างชาติและสถาบันยังคงเทขายหุ้นออกมาครับ และต่างชาติเริ่มมีการ short future มากขึ้นครับให้ระวังนะครับบ
อยากลงทุนให้ดู sector อาหาร ค้าปลีก และก่อสร้างครับ เหมือนเดิมครับ
STEC
CK
CPF
TVO
MINT
AJ
KBS
CPF
BIGC
CPALL

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาวะตลาด 16/1/55

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดเกิดการปรับตัวลดลง เนื่องจากมีข่าวเรื่องก่อการร้ายในไทย ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายออกมาครับ และเป็นรายย่อยที่รับหุ้นครับ ฝรั่งและสถาบันเริ่มกลับมา short future ครับ แต่ต่างชาติก็ยังเหลือสัญญาคงค้าง long อีก 3000 กว่าสัญญา ครับ ตลาดค่อนข้างมีความผันผวนในอาทิตย์ถัดไป แนะนำให้รอดูจังหวะครับและแนะนำหุ้น sector ก่อสร้าง ค้าปลีก และอาหารครับ
สำหรับคนทีอยากลงทุนระยะยาวคงต้องรอไปเกือบจบไตรมาสแรก เลยนะครับ

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาวะตลาด 10/1/55

ภาวะตลาดวันนี้นะครับมีแรงเทขายออกมาตามตลาดต่างประเทศ แต่กลับมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงบ่ายที่ แบงก์และพลังงานครับ ไหนๆๆมันจะไม่ลงเดี๋ยวซื้อขึ้นมันเลย ให้ซื้อหุ้นที่ยังไม่ขึ้นนะครับ วันนี้ต่างชาติกับสถาบันซื้อหุ้นอีกแล้ว แถมจับมือกันเปิด long future อีกด้วยครับบ ก็ยังคงแนะนำให้ขายออกไปเรื่อยๆๆครับเมืื่อหุ้นขึ้ยฃนครับ และแนะนำหุ้นอาหารกับก่อสร้างเป็นหุ้นน่าลงทุนครับ
KBS KSL CPF TVO MINT CK STEC ITD ให้หาจังหวะย่อเข้านะครับ ให้เป็นเตรียมตัวซื้อครับ
พรุ่งนี้ตลาดก็คงยงผันผวนอยู่ดีครับ เน้นดูที่ตลาดต่างประเทศเป็นหลักครับ แต่คงทุบยากหน่อยครับบ

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

อยากแนะนำ SOLAR จัง

ขอเวลาวิเคราะห์หน่อยนะครับ

ภาวะตลาด 9/1/55

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพบว่าตลาดค่อยข้างมีความผันผวนในช่วงแคบ ปิดลบไม่ถึง 1 จุด มีแรงขายพลังงานในช่วงเช้าและกลับมาซื้อในช่วงบ่ายครับ ยังไม่เลือกข้างชัดเจนหนัก ต่างชาติมีการเทขายออกมาแต่กลับเป็นสถาบันที่กลับเข้าไปซื้อครับ ต่าชาติกับสถาบันร่วมกันเปิด long future เพิ่มครับ จึงทำให้ตลาดค่อนข้างมีความผันผวน
ยังคงแนะนำเทขายออกไปเรื่อยๆๆๆ นะครับ และให้หันกลับมามองหุ้นที่น่าจะมีผลประกอบการโตในไตรมาสแรกครับ อย่างเช่น อาหารและก่อสร้างครับบบ ยังคงมีพื้นฐานทียังดีอยู่ครับ

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาวะตลาด 6/1/55

จากสถานการณืที่เกิดขึ้น วันนี้ตลาดมีการแกว่งตัวในช่วงแคบบๆๆ มีแรงเทขายแบงก์อย่างต่อเนื่องครับ แต่กลับมีแรงซื้อเข้าพลังงาน ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนบ้าง ต่างชาติขายออกมาแต่สถาบันกลับซื้อเพิ่ม
และต่างชาติเปิด long future เพิ่มซึ่งทำให้คงค้าง ประมาณ  3000 กว่าสัญญาด้วยกันครับ
แนะนำทยอยโปรยขายไปเรื่อยๆๆๆครับบบบบ พยามดู sector แบงก์ว่าจะหยุดตรงไหนครับ เพราะไตรมาส 4 งบยังพอดูได้อยู่ครับ หุ้นบางตัวยังคง undervalue อยู่ครับ

วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

กองทุนบัวหลวงถือหุ้นไรกันบ้างเนาะ??????

PTT
AOT
BJC
BBL
CPALL

ถึงว่าวิ่งเอาวิ่งเอา

ภาวะตลาด Set Index 5/1/55

จากการที่ตลาดบ้านเราเกิดเปิดมาบวกถึง 10 จุดและยังลากไปต่อถึง 16 จุด แต่สุดท้ายก็มาจบที่ 10 จุด
เช่นเดิมพบว่า ส่วนใหญ่เป็นหุ้นของพลังงานที่ปรับตัวสุงขึ้นและมีแรงเทขายจากกลุ่มแบงก์ที่มีข่าวไม่ค่อยดีเรื่องค่าธรรมเนียมแบงก์ครับ แต่ต่างชาติและสถาบันกลับซื้อหุ้นกลับเข้ามาถึง 1000 กว่าล้านบาท
และต่างชาติเปิด long future ในซีรีย์ใหม่ถึง 1000 กว่าสัญญา ถือว่ามองในเชิงบวกครับ
ถ้าหุ้นมันขึ้นก็ให้ทยอยขายออกไปเรื่อยๆๆครับเพราะตอนนี้ตลาดต่างประเทศไม่ค่อยดีหนัก ทางเทคนิคน่าจะมีการปรับตัวลงในไม่ช้าครับบ

ต่างชาติซื้อ 850 ล้านบาท

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นบ้านเรา

ตลาดหุ้นบ้านเรามีหลายปัจจัยเหลือเกินที่มากระทบครับ ผมจึงขอเสนอปัจจัยที่เข้ามากระทบครับ
1. ปัจจัยทางพื้นฐานครับ เป็นการดุว่าแต่ละบริษัทมีผลประกอบการเป็นยังไง และอนาคตทิศทางของ
บริษัทจะเป็นยังไง ต้องพยากรณ์ไปข้าหน้าครับ
2. ปัจจัยทางเทคนิค เป็นปัจจัยที่นำเอาปริมาณการเทรดหุ้น อารมณ์ของนักลงทุน มาเขียนเป็นกราฟครับ ผมมองว่าหุ้นแต่ละตัวพื้นฐานเปลี่ยนไม่บ่อยหรอกครับ แต่สิ่งที่มำให้ตลาดหุ้นดูน่าสนใจคือปัจจัยทางเทคนิคครับ
3.ผู้เล่นในตลาดหลักทรัพย์ เราแบ่งผู้เล่นออกเป็น 4 กลุ่มคือ
- นักลงทุนสถาบัน
- นักลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์
- นักลงทุนต่างชาติ ( อันนี้สำคัญ )
- นักลงทุนรายย่อย
4. การไหลเข้าออกของเงินต่างประเทศ เป็น fund flow ของเงินครับจากต่างประเทศครับ
5. ค่าเงินบาทครับบบ

BLAnd Graph

จากกราฟพบว่า bland อาจจะทำฝาแฝดได้นะครับ อันนี้เป็นเพียงทางเทคนิคนะครับ เราต้องใช้ทั้งพื้นฐานและเทคนิคผสมกันครับ เผอิญว่า Bland พื้นฐานดีขึ้นด้วยครับบบ
* การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับบบบบ

BLAND หุ้นไม่จมน้ำ คนชอบถามว่าซื้อได่เมื่อไหร่ครับ???

BLAND เป็นหุ้นที่คนถามกันเยอะว่าดีไหม เดี๋ยวเราลองมาดูกันว่ามันดีหรือไม่ดียังไงครับ
เริ่มจากมาดูกันว่า BLAND ไม่ได้ปิดงบสิ้นปีนะครับ เค้าปิดงบที่เดือน 3 ครับ ถ้าดูจากงบการเงินอย่างเดียวก๋พบว่า BLAND มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากปีก่อน เค้าทำธุรกิจทีพัฒนาอสังหารอมทรัพย์ แถวเมืองทองธานี ทั้งห้องชุด บ้าน ที่พักอาศัย และที่สำคัญคือน้ำไม่ท่วม ปีหน้าที่ทางแถวนั้นก็คงมีโอกาสขึ้นพอสมควรเลยทีเดียวครับ
เรามาดูทางการคำนวนว่ามันเป็นยังไงบ้างครับ P/E อยู่ที่ 15 เท่าครับ ถือว่ากลางๆๆ เพราะว่า P/e อุตสาหกรรมก็ ประมาณ 15 เท่าเหมือนกัน
P/BV เท่ากับ 0.47 เท่านั้น แปลว่าหุ้นยังอยู่ในราคาที่ยังถูกอยู่ครับบ
บางคนก็ถามว่าซื้อเท่าไหร่ดีครับ ตามเทคนิคหุ้นมีดอกาสปรับลดลงไปที่ 0.65-0.67 ก่อนครับ
อยากให้ซื้อเก็บตรง 0.65 ครับบบ

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2555

หุ้น SPACK ภาค 2

SPACK (2)


SymbolBoard DateX-DatePayment DateDividendOperation Period
    (Baht/Share) 
SPACK15/8/201126/8/201114/9/20110.1501/01/11-30/06/11
SPACK25/3/20115/4/201119/5/20110.1301/01/10-31/12/10
SPACK19/8/20101/9/201017/9/20100.62 
SPACK22/2/20105/3/201023/4/20100.201/07/09-31/12/09
SPACK13/8/200926/8/20099/9/20090.201/01/09-30/06/09
SPACK25/2/200918/3/200924/4/20090.201/07/08-31/12/08
SPACK13/8/200826/8/200812/9/20080.1601/01/08-30/06/08
SPACK25/2/20084/4/200825/4/20080.1801/07/07-31/12/07
SPACK14/8/200727/8/200713/9/20070.1401/01/07-30/06/07
SPACK23/2/200719/4/20073/5/20070.1801/07/06-31/12/06

การจ่ายปันผลค่อนข้างตอนเนื่องของบริษัทนี้ ที่จ่ายทุกปีเฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่ประมาณ 10% ครับ
เพราะฉะนั้นปีหน้า หุ้นน่าจะมีการปรับตัวลงมาบ้างให้ทยอยช้อนเก็บนะครับบบ
ทางเทคนิค downside ค่อนข้างน้อยครับ ให้ดูหลังจากเดือนมกราคมไปแล้วครับ
ถ้านักลงทุนท่านใดพอใจกลับปันผลประมาณ 10% ก็สามารถซื้อลงทุนได้ครับ

หุ้นอะไรเอ๋ยที่จ่าย yield สูงสุดในปี 54???



SPACK (บริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) )
บริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) ฯ และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกล่อง
กระดาษ และรับจ้างพิมพ์หนังสือ โดยสามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์กล่องกระดาษได้เป็น 2กลุ่มคือ
กล่องพิมพ์พาณิชย์ (Commercial Printing) และกล่องลูกฟูก (Corrugated Box)
ปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 300 ล้านบาทแบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท 
เป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสุงสุดในรอบปี 54 นะครับ เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องที่น้อยครับถ้าใครซื้อลงทุนแล้วก็ต้องถือไปเรื่อยๆๆ
เพราะจ่ายเงินปันผลค่อนข้างดีครับเป็นบริษัทที่จ่ายปันผลต่อเนื่อง จ่ายประมาณ 50% ของผลกำไรที่
ได้ครับเพราะฉะนั้นราคาของหุ้นอาจจะไม่วื้อว้ามากครับบดูจากผลประกอบการที่เกิดขึ้นในปีนี้คงอาจ
ทำให้ปีหน้าอาจจะมีการปรับลดของเงินปันผลลงบ้างครับ เพราะว่าผลประกอบการลดลงพอสมควรทีเดียวครับ

Macro weekly 26-30/12/54 ( กระทรวงการคลัง )

รายงานภาวะเศรษฐกิจ
ประจำวันที่  26-30 ธ.ค.  2554

--------------------------------------------------------------------------------
Economic Indicators: This Week :
            ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน พ.ย. 54 หดตัวร้อยละ -48.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -30.1 โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีฯ หดตัวต่อเนื่องและรุนแรง เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมสำคัญ 7 แห่งใน จ.อยุธยาและปทุมธานีได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อิล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ขณะที่นิคมต่างๆ ดังกล่าว เพิ่งได้รับการแก้ไขในส่วนของการสูบน้ำออกจากนิคมฯ แล้วเสร็จในช่วงต้น ธ.ค.54 และมีเพียงไม่กี่โรงงานที่เพิ่งเริ่มการผลิตใหม่ในช่วงกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในช่วง 11 เดือนแรกปี 54 ดัชนี MPI หดตัวที่ร้อยละ -7.9
            ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือน พ.ย. 54 หดตัวที่ร้อยละ -7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 7.4 ตามการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผล และปศุสัตว์เป็นสำคัญ โดยเฉพาะข้าวนาปี และผลผลิตไก่เนื้อ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง และบางส่วนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวในลักษณะต่อเดือนแล้วขจัดผลทางฤดูกาลออก พบว่า ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรในเดือนพ.ย. 54 หดตัวในอัตราเร่งร้อยละ -10.1 จากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรก ปี 54 ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวปีก่อน.......Download รายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบ http://www.fpo.go.th/FPO/index2.php?mod=Content&file=contentview&contentID=CNT0007484&categoryID=CAT0000033

ผลตอบแทนของตลาดดังทั่วโลกในรอบ 1 ปี

                Index                                          Opend                           Closed                 Return%
Hongkong Hang Seng Index (Hongkong)    23477.31                  18434.39                  - 21.48%
Nikkei 225 (Japan)                                    10387.95                   8455.35                   - 18.60%
SET (Thailand)                                          1044.62                    1025.32                     - 1.84%
Dow jones (USA)                                      11670.90                   12217.56                 + 4.68%
DAX (German)                                           6966.08                     5898.35                   - 15.33%
CSI300 (China)                                          3170.18                     2345.74                   - 26.01%
FTSE100 (England)                                    6013.87                     5572.28                    - 7.34%

*หมายเหตุ opend เป็นราคาเปิดของวันที่ 5/1/54
                  closed เป็นราคาปิดของวันที่ 30/12/54

January effect คือ อะไร

January effect คือการที่ระดับราคาของหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี จากบทวิเคาระห์ต่างๆๆบ้างก็บอกว่าในช่วงปลายปีของทุกปี นักลงทุนไม่อยาดถือหุ้นข้ามปีกันครับบ และมีการเทขายหุ้นออกมาเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายกันในช่วงปีใหม่ และกลับมาซื้อหุ้นในช่วงต้นปีอีกครั้งครับบ
เราลองมาดูกัสิว่า 10 ปีย้อนหลังมีการเกิด january effect บ่อยแค่ไหนครับ
จะสังเกตได้ว่าในช่วง 10 ปีล่าสุดมีเพียง 4 ปีที่เกิด January effect ครับและแถมในช่วง 5 ปีหลังไม่มีการเกิด january effect อีกด้วยครับ ส่วนช่วงที่เกิด january effect นั้นจะเป็นช่วงที่ปลายปีก่อนหน้านั้นตลาดหุ้นมีการปรับตัวลงมาก่อนครับ ถ้าในช่วงต้นปีเปิดกระโดดไม่มากก็อาจจะเกิด january effect ได้ครับบ นี่เป็นเพียงสถิติย้อนหลังเท่านั้นะครับ