นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส กล่าวว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ผันผวน เนื่องจากตลาดฯยังอ่อนไหวต่อปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญมาก แต่นักลงทุนก็ชะลอการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยภายนอกประเทศที่ขณะนี้สถานการณ์การเงินของตลาดฯเกิดใหม่ค่อนข้างอ่อนแอ ตามค่าเงินที่อ่อนค่า ทำให้เป็นที่น่ากังวลว่าจะเกิดภาวะวิกฤติทางการเงินรอบใหม่ในโลกอีกหรือไม่
สำหรับแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะแกว่งตัวผันผวนตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังการลงมติของที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED)ได้มีการลดการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบอีก 1 หมื่นล้านเหรียญจากที่เคยดำเนินการไปเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมถึงความกังวลว่าสถานการณ์การเมืองในวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้จะเกิดความรุนแรง ซึ่งนักลงทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงกับความผันผวนของตลาดฯได้ก็จะปรับกลยุทธ์ด้วยวิธีชะลอการลงทุนเพื่อตั้งรับในการลงทุนระยะกลาง-ยาวอีกรอบ
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ชะลอการลงทุน ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,250-1,200 จุด และแนวต้านที่ 1,270-1,280 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,894.90 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,606.59 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,310.26 ล้านบาท ปิดที่ 205.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,033.00 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 956.49 ล้านบาท ปิดที่ 174.00 บาท เพื่มขึ้น 1.00 บาท