- ผลสำรวจล่าสุดของแกลลัพซึ่งมีขึ้นระว่างวันที่ 27-28 ต.ค. แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกัน 54% คิดว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2555 ขณะที่ 34% ให้นายรอมนีย์เป็นผู้ชนะ ซึ่งมุมมองดังกล่าวค่อนข้างคล้ายคลึงกับผลสำรวจของแกลลัพในเดือนพ.ค.และส.ค. แม้ว่าในขณะนี้มีชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นเล็กน้อยที่ไม่แสดงความคิดเห็นว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
- ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 8 เดือน และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 131,000-135,000 ตำแหน่งโดยประมาณ
- Australian Industry Group (Ai Group) เปิดเผยว่า กิจกรรมการผลิตในออสเตรเลียยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนต.ค. อันเป็นผลมาจากสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งค่า อุปสงค์ที่อ่อนแรงในตลาดส่งออก และต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น
โซนี่ คอร์ป มียอดขาดทุนสุทธิ 4.011 หมื่นล้านเยนในเดือนเม.ย.-ก.ย. เมื่อเทียบกับยอดขาดทุน 4.248 หมื่นล้านเยนเมื่อปีก่อน โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการแข็งค่าของเงินเยน และยอดขายสินค้าที่ชะลอตัว อาทิ กล้องดิจิตอล
- ธนาคารกลางจีนดำเนินการอัดฉีดเม็ดเงินสุทธิเข้าสู่ตลาดครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ ที่ 3.79 แสนล้านหยวนผ่านทางการทำธุรกรรมการซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse repo) ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางจีนตั้งใจที่จะทำให้ตลาดเงินอยู่ในภาวะผ่อนคลายต่อไปเพื่อช่วยสนับสนุนการปล่อยกู้แก่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
- ยอดขายรถยนต์ของโตโยต้า ในจีนร่วงลง 44% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากการประท้วงที่รุนแรงและการเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรสินค้าของญี่ปุ่นได้ประทุขึ้นทั่วประเทศจีนในช่วงกลางเดือนก.ย. หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นซื้อเกาะ 2 เกาะในทะเลจีนตะวันออกจากเจ้าของที่เป็นเอกชน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตนั้น แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวลงก่อนหน้านี้ ขณะที่ HSBC เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเพิ่มขึ้นแตะ 49.5 ในเดือนต.ค. จาก 47.9 ในเดือนก.ย. ทั้งนี้ แม้ว่าดัชนี PMI ยังคงหดตัวเนื่องจากตัวเลขต่ำกว่าระดับ 50 แต่ก็ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของกิจกรรมในภาคการผลิตจีน และมีแนวโน้มจะหนุนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจจีนต่อไป
ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราวานนี้ (1 พ.ย.) เป็นครั้งที่ 8 ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ โดยได้ขายดอลลาร์ฮ่องกงจำนวน 2.3 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (296.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อรักษาเสถียรภาพของดอลลาร์ฮ่องกง หลังจากที่ดอลลาร์ฮ่องกงแข็งค่าแตะเพดานกรอบบนของช่วงการซื้อขายประจำวัน
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในอินโดนีเซียปรับขึ้นสู่ 51.9 ในเดือนต.ค. จาก 50.5 ในเดือนก.ย. และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ HSBC เริ่มการสำรวจในปี 2011
- ยอดส่งออกของอินโดนีเซียในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. อยู่ที่ 1.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 6.06% จากระดับ 1.5223 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ยอดส่งออกรายเดือนเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังสุด
- อัตราเงินเฟ้อไทยในเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น แต่น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น 3.32% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.13% จากเดือนก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง หลังนโยบายการกำกับดูแลราคาสินค้า และพลังงานของรัฐบาลส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้น 1.83% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.02% จากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อทั่วไป ในไตรมาส 4/55 ไว้ที่ 3.2-3.5% ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อปี 2555 เพิ่มขึ้นใกล้เคียงระดับ 3.1%โดยยังอยู่โดยในกรอบคาดการณ์ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ 3.0-3.4%
- ธปท. เปิดเผยผลสำรวจภาคธุรกิจยังมีความต้องการสินเชื่ออย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปีนี้ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน ตลอดจนธุรกิจก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ แต่ระดับความต้องการสินเชื่อจะไม่สูงเท่ากับครึ่งแรกของปี เนื่องจากมีการเร่งตัวไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สินเชื่อภาคครัวเรือนยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อบัตรเครดิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น