หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 13/12/55

General News
-------------------



• ผลผลิตอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือน ต.ค.หดตัวลง 1.4% จากเดือนก่อน โดยการผลิตสินค้าคงทนและสินค้าทุนลดลง 3.8% และ 3.0% ตามลำดับ ขณะที่สินค้าไม่คงทนมีการผลิตเพิ่มขึ้น 1.2% ทั้งนี้ โปรตุเกสมีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็น 4.8% ขณะที่เอสโตเนียหดตัวลงมากที่สุดถึง 5.3%

• อัตราเงิ
นเฟ้อของเยอรมนีและฝรั่งเศส เดือน พ.ย.เป็น 1.9% และ 1.4% ตามลำดับ ลดลง 0.1% และ 0.2% จากเดือนก่อน เพราะต้นทุนราคาพลังงานลดลง 1.1%-1.2%

• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในเดือน พ.ย.ลดลง 3,000 คน จากที่เพิ่มขึ้น 6,000 คนในเดือนก่อน ทำให้จำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานรวมอยู่ที่ 1.58 ล้านคน แต่อัตราว่างงานยังคงทรงตัวอยู่ที่ 7.8%

• บลูมเบิร์ก สำรวจความเห็นประชาชนผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน โดยพบว่า กึ่งหนึ่งเห็นด้วยกับการขึ้นภาษีผู้มีรายได้สูงตามแผนของโอบามา ซึ่งช่วยยืนยันว่าการขึ้นภาษีเป็นสิ่งที่รัฐบาลควรทำตามที่ให้คำมั่นไว้ และจะช่วยให้การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยง Fiscal Cliff เป็นไปได้มากขึ้น

• ราคาสินค้านำเข้าของสหรัฐเดือน พ.ย.ลดลง 0.9% จากเดือนก่อน ลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เพราะราคาปิโตรเลียมและอาหารลดลง 3.6% และ 1.3% ตามลำดับ

• จำนวนตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 128,000 ตำแหน่ง ทำให้ตำแหน่งงานรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.68 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 4 เดือน บ่งชี้ว่า บริษัทในสหรัฐยังคงขยายธุรกิจต่อไปแม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนในเรื่อง Fiscal Cliff

• ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 2.6% เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ภาคเอกชนเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปีหน้ามากขึ้น

• IMF เตือนว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงกำลังเผชิญความเสี่ยงต่อภาวะฟองสบู่แตก หลังจากอัตราดอกเบี้ยต่ำและปริมาณเสนอขายที่จำกัดได้ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วง 4 ปี

• เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการยิงดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรขณะที่นานาประเทศแสดงความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว โดยเกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยไกลซึ่งระบุว่าเป็นการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงสันติและทางวิทยาศาสตร์ และจะปฏิบัติตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นเตรียมเสนอให้ UN ออกมาตรการเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าวของเกาหลีเหนือ ขณะที่สหรัฐออกมาระบุว่าการกระทำของเกาหลีเหนือเป็นการยั่วยุและคุกคามความมั่นคงของภูมิภาคเป็นอย่างยิ่ง

• ผลสำรวจของธนาคารกลางสิงคโปร์ ระบุว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ในปีนี้จะขยายตัว 1.5% ลดลงจาก 2.4% ในการสำรวจเดือน ก.ย. โดยจะขยายตัวเพียง 0.3% ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยที่ 2.3% อย่างมาก

• อินโดนีเซียพบไข้หวัดนก H5N1 สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งส่งผลให้เป็ดบนเกาะชวาล้มตายกว่า 320,000 ตัวนับตั้งแต่เดือน พ.ย. ทั้งนี้ อินโดนีเซียเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไข้หวัดนก จนทำให้ต้องกำจัดสัตว์ปีกหลายล้านตัวในปี 2546

• รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท.ในครั้งที่ผ่านมา ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้ามีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าประมาณการเดิมของ ธปท. จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าคาด ขณะที่การส่งออกจะกลับมามีบทบาทสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

อย่างไรก็ตาม กนง.ยังคงเห็นว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะย่ำแย่ลงยังคงมีอยู่ จึงมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งที่ผ่านมา และจะติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกและไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมต่อไป

• ผอ.สำนักนโยบายการเงิน ธปท. คาดว่า GDP ในปีนี้จะขยายตัว 5.7% และปีหน้า 4.6% จากการบริโภคในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ขณะที่มีปัจจัยเสี่ยงจาก Fiscal Cliff ของสหรัฐ ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และภาวะซบเซาของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปีหน้าจะอยู่ที่ 2.8% แต่มีความเสี่ยงจากการปรับค่าแรงเป็น 300 บาททั่วประเทศ และการปรับโครงสร้างราคาพลังงานของภาครัฐที่อาจทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวเกินกว่าที่คาดไว้ได้

• ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า แนวโน้มนโยบายการเงินของไทยจะยังอยู่ในทิศทางผ่อนคลายต่อเนื่องในปีหน้าซึ่งจะมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ อันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การอุปโภคบริโภคในประเทศเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในประเทศให้สูงขึ้นได้ ทำให้ธปท.ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

Equity Market
------------------



• SET Index ปิดที่ 1,354.57 จุด เพิ่มขึ้น 13.24 จุด หรือ 0.99% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43,485.09 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,387.77 ล้านบาท

ทั้งนี้ ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศ และความคาดหวังว่า Fed อาจจะประกาศแผน QE4 ในการประชุมคืนที่ผ่านมา

Fixed Income Market
---------------------------



• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง +0.01% ถึง 0.06% โดยเป็นการปรับขึ้นมากในพันธบัตรรุ่นอายุ 9 และ 15 ปี ตามผลการประมูลในช่วงเช้า

• ธปท.เปิดเผยแผนการออกพันธบัตรธปท.ในปี 2556 โดยจะยกเลิกการออกพันธบัตร ธปท. อัตราดอกเบี้ยคงที่อายุ 4 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการระดมทุนของภาครัฐที่ต้องการเพิ่มพันธบัตรระยะยาว

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปี 2555 พบว่า ธปท.จะเพิ่มวงเงินประมูลต่อครั้งในพันธบัตรอายุสั้น และลดวงเงินประมูลต่อครั้งในพันธบัตรอายุระยะกลาง

Oil Corner
--------------



• โอเปคมีมติคงเป้าหมายการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งโอเปคได้ส่งสัญญาณว่า ยังคงพอใจกับระดับราคาน้ำมันในปัจจุบัน ทั้งนี้ โอเปคยังไม่สามารถเลือกเลขาธิการคนใหม่ได้เนื่องจากยังคงมีความขัดแย้งกันระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น