สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ธปท.กล่อมสอท.อยู่หมัดคุมบาทโป๊กหอการค้าโอดเงินในกระเป๋าผู้ส่งออกวูบ2.1แสนล.
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังหารือกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า รู้สึกคลายความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาท โดยธปท.ได้ชี้แจงมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับการดูแลเงินบาทว่าขณะนี้มีเครื่องมือในการดูแลค่าเงินบาท แต่ต้องขึ้นอยู่กับเวลาที่จะนำมาใช้อย่างเหมาะสม แม้เงินบาทจะแข็งค่าค่อนข้างเร็ว แต่ยังมีความผันผวนน้อยกว่าค่าเงินริงกิตของมาเลเซีย และรูเปียห์ของอินโดนีเซีย ซึ่งหลังจากนี้ ส.อ.ท.จะติดตามและประเมินความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ จะทบทวนถึงผล กระทบและมาตรการขอความช่วยเหลืออีกครั้ง เพราะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในระดับที่ผู้ส่งออกรับได้ไม่ควรหลุด 30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ไฟเขียวลดเงินสมทบประกันสังคมอุ้มเอสเอ็มอี
นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากการปรับขั้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โดยปรับลดเงินจ่ายสมทบกองทุนประกันสังคมตามกฎกระทรวงเดิมที่กำหนดให้ทั้งรัฐบาล นายจ้าง และผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเพื่อจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยทุพพลภาพ/ตาย/คลอดบุตร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 เป็นต้นไปที่อัตรา 1.5% ของค่าจ้าง โดยปรับอัตราจ่ายสมทบลงเหลือฝ่ายละ 0.5% ของค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2556 และให้กลับมาเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในอัตรา 1.5% ของค่าจ้างตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.2557 เป็นต้นไป ซึ่งการลดเงินสมทบตามร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะมีผลทำให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ได้รับการลดอัตราเงินสมทบด้วย จากเดิมออกเงินสมทบในอัตราเดือนละ 432 บาท เป็นออกเงินสมทบในอัตราเดือนละ 336 บาทด้วย
ควัก157ล.ให้ตำรวจเฝ้าจุดรับจำนำ
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขออนุมัติงบกลางเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตอบแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดรับจำนำ แยกเป็น ประจำจุดรับจำนำในส่วนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/2556 วงเงิน 126.36 ล้านบาท และโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2555/2556 วงเงิน 31.46 ล้านบาท รวมวงเงิน 157.82 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขการรับจำนำข้าวเปลือก และการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2555/2556 ให้มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดรับจำนำจุดละ 2 นาย เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/2556 จะต้องใช้ตำรวจประจำจุดรับจำนำ 1,300 จุด จุดละ 2 คน คนละ 200 บาท ระยะเวลา 8 เดือน วงเงินรวม 126.36 ล้านบาท ขณะที่โครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง จะเปิดจุดรับจำนำ 650 จุด ระยะเวลา 4 เดือน วงเงิน 31.46 ล้านบาท
อาร์เอสเปิดเกมรุกผลิตสื่อ
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2556 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่พ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ ประกาศใช้เป็นครั้งแรก และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการโทรทัศน์ ทำให้ธุรกิจทีวีที่ถูกปิดจากระบบสัมปทานสามารถเปิดกว้างขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเป็นทีวีดิจิตอล ขณะที่อาร์เอสซึ่งทำธุรกิจทีวีดาวเทียมมาแล้ว 3 ปี จึงมองว่าปีนี้น่าจะเป็นก้าวสำคัญของบริษัท จากการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตเนื้อหาหรือคอนเทนต์ สู่การเป็นธุรกิจสื่อ โดยปีนี้บริษัทวางเป้าหมายที่จะก้าวสู่การเป็น Multi Content Media Network หรือการสร้างมีเดียเน็ตเวิร์กที่แข็งแรง และให้ความสำคัญกับการมี คอนเทนต์ที่หลากหลาย เนื้อหาครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ทนุศักดิ์สั่งปั๊มบัตรรูดปื๊ดเกษตรกร5ล.ใบ
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในการตรวจเยี่ยมและร่วมประชุมกับคณะกรรมการ ธ.ก.ส เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายไปยังผู้บริหารและคณะกรรมการธ.ก.ส. ให้เร่งออกบัตรเครดิตเกษตรกรให้ครบ 4 ล้านใบในปี 2556 พร้อมทั้งให้ไปพิจารณาดูว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะออกบัตรให้ครอบคลุมลูกค้าธ.ก.ส. ที่มีทั้งหมด 5 ล้านราย
รฟท.ควักเวนคืนสายสีส้มอีกพันล.
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเวนคืนที่ดินเพิ่มในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ระยะทาง 35.4 กิโลเมตร วงเงินลงทุนประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นจะใช้สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร คาดว่าจะสรุปข้อมูลเพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการรฟม. พิจารณาอนุมัติดำเนินโครงการภายใน 2-3 เดือนนี้ ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการนั้นจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี คาดประกวดราคาได้ภายในปี 2556 และระยะที่ 2 ช่วงศูนย์วัฒนาธรรม-ตลิ่งชัน คาดประกวดราคาได้ภายในปี 2557 ตามแผนจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2562-2563 คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสาร วันละ 595,750 คน/เที่ยว
'โกร่ง'ชี้ก่อหนี้ได้70%-ประเทศไม่เจ๊งวันนี้ถกนัดสุดท้ายเลือกบริษัททำโครงการน้ำ
นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ(กยอ.) และประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของไทยล่าสุดเดือนพ.ย.2555 อยู่ที่ 4.875 ล้านล้านบาท คิดเป็น 43.47% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับฐานของประเทศในขณะนี้ที่แข็งแกร่ง ดังนั้น การก่อหนี้ของรัฐบาลเพื่อการลงทุนเพื่ออนาคตจึงยังไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงมากนัก
5ปท.งง!ส.อ.ท.แตกไม่รู้จะติดต่อกลุ่มไหน
รายงานข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์กรเอกชนในหลายประเทศ ได้ทำหนังสือหรือโทรศัพท์สอบถามสถานการณ์ความขัดแย้งภายในส.อ.ท. โดยเฉพาะองค์กรจาก 5 ประเทศที่ให้ความสำคัญในการติดตามสถานการณ์เป็นพิเศษ เช่น สมาพันธ์องค์กรเศรษฐกิจญี่ปุ่น องค์กรเอกชนของลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า เนื่องจากเอกชนของไทยกับประเทศดังกล่าวมีความร่วมมือด้านการลงทุนและการร่วมทุนกันจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องประสานงานกันตลอดเวลา
'เต้น'ลุยแก้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในมีนโยบายที่จะดูแลช่วยเหลือเกษตรกรไทย และสนับสนุนส่งเสริมผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะการหาช่องทางจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ได้ร่วมมือกับบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ที่มีสาขาต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 350 สาขา ให้การสนับสนุนเกษตรกรไทย และผู้บริโภคให้มีโอกาสเลือกซื้อและบริโภคผลผลิตการเกษตรที่มีคุณภาพของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 บริษัท บิ๊กซีจะรับซื้อผักและผลไม้ของไทยที่มีคุณภาพที่เหมาะสม เพื่อนำไปจำหน่ายในบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ จำนวน 70,200 ตัน เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2555 โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 3,500 ล้านบาท จากเดิมปีที่ผ่านมาประมาณ 60,000 ตัน มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท
สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน
เตือนบริหารเสี่ยงจังหวะบาทนิ่ง
ธปท.ย้ำไร้สัญญาณเก็งกำไร ครม.ตั้งคกก.เยียวยาเอสเอ็มอี
ธปท.เตือนธุรกิจบริหารความเสี่ยงช่วงบาทนิ่ง ยันติดตามค่าเงินใกล้ชิด ไม่เห็นสัญญาณเก็งกำไร ส.อ.ท.วอนแบงก์ลดขนาดประกันความเสี่ยง ช่วยลดภาระเอกชน หอการค้าเตรียมเสนอ 7 มาตรการเยียวยา ด้าน ครม.ตั้ง คกก.เยียวยาเอสเอ็มอี
หอค้าเบรกมาตรฐานข้าว ยื้ออีกปีอ้างเอกชนปรับตัว
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ประกาศกำหนดข้าวขาวเป็นสินค้ามาตรฐานและมาตรฐานสินค้าข้าวขาว คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยกำหนดมาตรฐานข้าวขาวออกเป็น 8 ชนิด คือ ข้าวขาว 100% ชั้น 1 ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ข้าวขาว 100% ชั้น 3 ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% เลิศ และข้าวขาว 25% โดยข้าวขาวแต่ละชนิดจะมีส่วนผสมในเรื่องข้าวเต็มเมล็ด ข้าวหัก ข้าวเมล็ดแดง เมล็ดเหลือง เมล็ดท้องไข่ เมล็ดเสีย เมล็ดลีบ ฯลฯ แตกต่างกัน นอกจากนี้ ข้าวขาวทุกชนิดต้องมีความชื้นไม่เกิน 14% และไม่มีแมลงที่ยังมีชีวิตอยู่
ต่างชาติสับสนดีลธุรกิจส.อ.ท.'ประเสริฐ'ปัดแทรกแซง
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การตั้งคณะกรรมการสร้างความสัมพันธ์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระหว่างฝ่ายนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.และนายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ ส.อ.ท.ฝ่ายละ 5 คนนั้น ถือเป็นจุดเริ่มที่ดีที่ทั้งสองฝ่ายในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งในองค์กร ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมจะไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด
ก.อุตฯชงช่วยเอสเอ็มอีด่วนอัดฉีดเงิน-ยืดมาตรการภาษี
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้ากระทรวงอุตสาหกรรม จะเสนอมาตรการเร่งด่วนและโครงการช่วยเหลือระยะยาว สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่า จะใช้งบประมาณราว 2,000 ล้านบาท เบื้องต้นประกอบด้วย 5 มาตรการ คือ 1.โครงการอัดฉีดเงินทุนหมุนเวียนสำหรับ เอสเอ็มอี โดยชดเชยดอกเบี้ยอัตรา 3% ในปีแรก เพื่อช่วยลดรายจ่ายและเสริมสภาพคล่องและรักษาการจ้างงาน
กสทช.แจงศาลปรับพรีเพด 'เอไอเอส'จ่ายนำร่องคู่แข่ง
รายงานข่าวจากศาลปกครองแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้เชิญกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และเลขาธิการกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รวมทั้งฝ่ายกฎหมายของทางบริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เข้ามาให้ปากคำแก่ศาล จากกรณีที่เอไอเอสยื่นเรื่องฟ้อง กทค. และเลขาธิการ กสทช. เพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีที่ กสทช.กำหนดอัตราค่าปรับ จากการที่เอไอเอสไม่กำหนดวันหมดอายุบริการโทรศัพท์ในระบบเติมเงิน (พรีเพด) ในอัตราวันละ 1 แสนบาท ทั้งที่ กสทช.สามารถกำหนดค่าปรับได้ในอัตราขั้นต่ำวันละ 2 หมื่นบาท
สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
จัดแข่งขันเชฟอาหารไทยประชันฝีมือครั้งแรกในโลกกระตุ้นยอดส่งออกติด1ใน10
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลก ครั้งแรกของโลก โดยมีพ่อครัวแม่ครัวอาชีพจาก 15 ประเทศร่วมประชันแข่งขันทำอาหารไทย เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อาหารไทยให้ทั่วโลกรู้จัก รวมทั้งผลักดันให้อาหารไทยกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารสากล
แบรนด์จัดชุดพิเศษขายคู่รักผลิต1พันชุดฉลองวาเลนไทน์
นายบุญเลิศ สุขเสรีทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เซเรบอส จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจแบรนด์ รังนก เปิดเผยว่า แบรนด์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงเทศกาลแห่งความรัก ด้วยการจัดรังนกชุดพิเศษ วาเลนไทน์ กิฟต์ บ็อกซ์ ขนาดบรรจุ 6 ขวด เพื่อวางจำหน่ายในร้านค้าทันสมัย (โมเดิร์นเทรด) และขายผ่านทางออนไลน์ เพียง 1,000 ชุดเท่านั้น โดยไม่ได้เพิ่มราคาแต่อย่างใด โดยยังคงใช้พรีเซ็นเตอร์เดิม คือ แอฟ-ทักษอร และสงกรานต์ เตชะณรงค์ ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
วอลล์สตรีทเปิดสาขาที่ญวน
นายมาร์ค นุโสม์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร สถาบันสอนภาษาอังกฤษ วอลล์สตรีทอิงลิช ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ 800 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน โดยปัจจุบันวอลล์สตรีทมีลูกค้า 25,000 คน แบ่งเป็นลูกค้าองค์กร 10-20% และลูกค้าทั่วไป 80-90% พร้อมตั้งเป้าหมายเปิดสาขาปีนี้เพิ่มอีก 1-2 แห่ง หรือเพิ่มจากปัจจุบัน 9 สาขา เป็น 10-11 แห่ง โดยใช้เงินลงทุน 15-25 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมขยายสาขาที่ประเทศเวียดนาม ใช้เงินลงทุน 60 ล้านบาท นอกจากนี้มีแผนจะเปิดสาขาที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด
ธปท.ออกธนบัตร20บาทใหม่
นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. เตรียมออกธนบัตรชนิดราคา 20 บาท ในรูปแบบใหม่เพื่อทดแทนธนบัตรชนิดราคา 20 บาทรุ่นเดิม ที่ใช้ในปัจจุบัน เพื่อรองรับกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ที่คาดว่าจะส่งผลให้มีความต้องการใช้ธนบัตรหมุนเวียนเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะนำออกใช้ได้ในเดือน เม.ย. นี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินการที่วางไว้ ส่วนระยะต่อไป ธปท.จะออกธนบัตรหมุนเวียนฉบับละ 500 และ 1,000 บาท ทดแทนรุ่นเดิมที่ใช้อยู่ ซึ่งจะพัฒนาเทคโนโลยีการพิมพ์ อายุกระดาษที่ใช้ได้นานกว่า รวมถึงประสิทธิภาพในการป้องกันการปลอมแปลงยิ่งขึ้น
สามพรานฯรุกหนักดึงเพื่อนบ้านดูงาน
นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ ผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรม แหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย เปิดเผยว่า จะเน้นบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เนื่องจากมีศักยภาพเติบโตสูง โดยขณะนี้เริ่มมีบางตลาดเข้ามาพักและเที่ยวที่สามพรานริเวอร์ไซด์บ้างแล้ว ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ล่าสุดได้เดินทางไปร่วมงานอาเซียน ทัวริสซึ่ม แฟร์ ที่ประเทศลาว โดยนำจุดขายการท่องเที่ยววิถีไทย การศึกษาดูงานทำฟาร์มเกษตรปลอดสารพิษ (ออร์แกนิก ฟาร์ม) ที่สามพรานริเวอร์ไซด์ มานำเสนอ เพื่อเจาะกลุ่มท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (กรีน ทัวริสซึ่ม)
ทุ่มหมื่นล.ผุดเซ็นทรัลเวสท์เกต
น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจออกแบบและก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ได้ทุ่มงบประมาณ 10,000 ล้านบาท จัดทำศูนย์การค้าแห่งที่ 25 ภายใต้แบรนด์ใหม่ชื่อ "เซ็นทรัลเวสท์เกต" ขนาดพื้นที่ 500,000 ตารางเมตร บริเวณแยกบางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางการชอปปิงของภูมิภาค คาดว่าจะเปิดให้บริการลูกค้าในปี 58 ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการวันละ 200,000 คน โดยโครงการนี้ถือเป็นเฟสแรกจากแผนการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวที่กำหนดไว้ทั้งหมด 3 เฟส โดยเฟส 2 จะสร้างศูนย์การค้าและสร้างที่พักอาศัย และเฟส 3 จะเป็นศูนย์การค้าอีก แต่รูปแบบและเงินลงทุนจะเป็นเท่าใดนั้นยังไม่สามารถบอกได้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด
องค์กร5ประเทศเกาะติดศึกสอท.
รายงานข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์กรเอกชนหลายประเทศ ได้ทำหนังสือหรือโทรศัพท์เข้ามาสอบถามสถานการณ์ความขัดแย้งภายในของ ส.อ.ท. ไทย โดยเฉพาะจาก 5 ประเทศที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ อาทิ สมาพันธ์องค์กรเศรษฐกิจญี่ปุ่น, องค์กรเอกชนของลาว, กัมพูชา, เวียดนาม และ พม่า เนื่องจากมีความร่วมมือด้านการลงทุน ร่วมทุนกันจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องประสานงานกันตลอดเวลา
ตั้งคณะกรรมการช่วยเอสเอ็มอีหลังโดนพิษค่าแรง-ศก.โลก'นิวัฒน์ธำรง'บัชาการ6ด.
นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากทุก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นที่ปรึกษา มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีอำนาจหาแนวทางช่วยเหลือเอสเอ็มอีภายในช่วงเวลา 6 เดือนจากนี้เท่านั้น
พาณิชย์จับมือห้างฯบิ๊กซีซื้อสินค้าเกษตรล้นตลาด
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับบริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ลงนามบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือส่งเสริมจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตรของไทย โดยในปี 56 บริษัทบิ๊กซีฯ จะรับซื้อผักและผลไม้ไทยเพื่อนำไปจำหน่ายในบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขา 70,200 ตัน เพิ่มขึ้น 35% จากปี 55 มีมูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท
สหภาพฯม็อบไล่ผอ.ท่าเรือฯ ขู่ไม่ลาออกหยุดทำงานโอที
นายจเร หมีดนุ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยภายหลังยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ประธานกรรมการ กทท. เพื่อขอให้ ร.ต.วิโรจน์ จงชาณสิทโธ ผู้อำนวยการ กทท.ออกจากตำแหน่งโดยมีสมาชิกสหภาพฯ กว่า 200 คนร่วมชุมนุมขับไล่ว่า ได้ยื่นหนังสือต่อประธานบอร์ด กทท. เพื่อขอให้ ร.ต.วิโรจน์ ออกจากตำแหน่ง ผอ. กทท. หลังจากรับตำแหน่งมา 7 เดือน ได้ใช้นโยบายข่มขู่ กลั่นแกล้งสหภาพฯ และพนักงาน โดยตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาทางเอาผิดข้อวินัยกับเลขาธิการ ประธานที่ปรึกษาสหภาพฯ พนักงานที่ฟ้องร้องค่าล่วงเวลา รวมทั้งตน เพื่อให้ถอนฟ้องค่าล่วงเวลา โดยวันที่ 1 ก.พ. นี้ จะประชุมคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ หากไม่ได้ตามที่เรียกร้อง สหภาพฯ จะกดดันโดยให้พนักงาน 1,200 คน หยุดทำงานล่วงเวลา ซึ่งถือว่า พนักงานดำเนินการได้
ไฟเขียวงบกลางจ้างตำรวจเฝ้าจุดรับจำนำข้าวเปลือก
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 157.82 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตอบแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดรับจำนำ โดยแบ่งเป็น เจ้าหน้าที่ที่ต้องประจำจุดรับจำนำในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 55/56 วงเงิน 126.36 ล้านบาท และโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 55/56 วงเงิน 31.46 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจะเข้าไปดูแลจุดรับจำนำต่าง ๆ ทั่วประเทศ และให้ความเป็นธรรมกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงยังเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น