บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนนี้ (5 มิ.ย.) ดัชนีแกว่งตัวผันผวนตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดยังคงกังวลกับปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรป ขณะที่ปัจจัยในประเทศปัญหาการเมือง โดยเฉพาะการผล้กดันพ.ร.บ.ปรองดอง ยังคงเป็นประเด็นที่ตลาดจับตามอง และกังวลว่าอาจสร้างความวุ่นวายทางการเมือง โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ 1,122.35 จุด และปิดตลาดในระดับต่ำสุดที่ 1,099.15 จุด ลดลง 16.04 จุด หรือ 1.44%
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย
SCB ปิดที่ 132.00 บาท -3.50 (-2.58%)
KBANK ปิดที่ 144.00 บาท -4.50 (-3.03%)
PTT ปิดที่ 303.00 บาท -2.00 (-0.66%)
BANPU ปิดที่ 432.00 บาท -18.00 (-4.00%)
CPALL ปิดที่ 32.75 บาท -0.75 (-2.24%)
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงน่าจะเป็นผลจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนรายสถาบันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ หลังจากที่เมื่อวานนี้ตลาดบ้านเราได้ปิดทำการไปขณะที่ตลาดอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า แต่เช้านี้ตลาดภูมิภาคก็เริ่มมีการรีบาวน์กลับขึ้นมาได้หลังร่วงแรงวานนี้
ทั้งนี้ เป็นผลจากความกังวลปัจจัยภายนอกประเทศ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐอ่อนตัวลง และอัตราการว่างงานของสหรัฐฯก็เพิ่มขึ้นจากที่คาดว่าจะทรงตัว ทำให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯอ่อนแรง และตัวเลขการผลิตและบริการของจีนอ่อนแอ รวมทั้งตัวเลขการว่างงานในยูโรโซนมาอยู่ที่ 11% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นภาพโดยรวมของภายนอกประเทศจึงมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น จึงกดดันตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ
ขณะที่ปัจจัยในประเทศเวลานี้ก็เกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง ในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ซึ่งจะต้องจับตาดูมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น