นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในช่วงบ่าย จากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก โดยมีแรงเทขายในกลุ่มสื่อสาร กลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน รวมถึงกลุ่มหุ้นที่ถูกกระทบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมตรวจสอบ 8 โครงการใหญ่ที่มีมูลค่าเกิน 1 พันลบ. อีกครั้ง
ด้านการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตลาด เนื่องจากเป็นไปตามความคาดหมาย แต่อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็น ปัจจัยลบต่อหุ้น IPO ที่จะเข้าทำการซื้อขายในวันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่มากนัก โดยที่ผ่านมาหุ้น IPO เข้าทำการซื้อขายที่ผ่านมาในช่วงตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบ นักลงทุนจะดูที่พื้นฐานของหุ้นนั้น ๆ เป็นหลักมากกว่า
นอกจากนี้ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนนี้ คาดว่าจะปรับลดวงเงินมาตราการ QE อีกหนึ่งหมื่นล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และจะไม่มีอะไรที่จะออกมาเหนือความคาดหมายมากนัก อีกทั้งปัญหาความรุนแรงในอิรัก ไม่ใช่ปัจจัยที่หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ดังจะเห็นจากที่วันนี้หุ้นในกลุ่ม ปตท. ปรับตัวลงต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่า หุ้นไทยยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันนี้ แต่จะอยู่ในกรอบจำกัดมากขึ้น เนื่องจากยังรอความชัดเจนถึงการตรวจสอบ 8 โครงการใหญ่ รวมถึงความชัดเจนเรื่องการประมูลเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ 4G ซึ่งหากมีความชัดเจนในประเด็นดังกล่าว หุ้นไทยก็ยังจะสามารถขยับบวกได้ ทั้งนี้ แนะเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคาร รับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง และพาณิชย์ โดยประเมินแนวรับ 1,445 จุด แนวต้าน 1,468 จุด
สรุปโดยรวมนะครับตลาดปรับฐานแรงด้วยแรงเทขายทำกำไรจากการที่ขึ้นมาแรงร่วม 200 จุดตั้งแต่ต้นปี โดยมี story ด้านการเลื่อนประมูล 4G ออกไปก่อน และยังทีข่าวลือเกี่ยวกับการเก็บภาษีของกำไรจากการขายหุ้น โดยส่วนตัวมองว่าตลาดปรัยได้ไม่แปลก แรงกว่านี้ก้ไม่น่าตกใจ เพราะที่ขึ้นมาเป็นการเก็งกำไรทั้งนั้นยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และคงไม่สอดคล้องกับงบการเงิน Q2 สักเท่าไหร่ตลาดจึงเลือกเทขายทำกำไรเป็นระยะ เรามองต่อว่าสภาพเศรษฐกิจเลยจุด bottom ไปแล้วทำให้เป็นการลงทุนรอบใหม่ได้ดีเมื่อตลาดปรับลง แนะซื้อหุ้น AEONTS KBANK KTB SPCG BLA GLOW SCC HEMRAJ AMATA CPF TUF GFPT SIM SAMART JAS BTS MINT
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น