ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอีกรอบ ด้วยการออกมาตรการ QE3 ประกาศซื้อพันธบัตรรอบใหม่ วงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน มีเป้าหมายหั่นอัตราดอกเบี้ยระยะยาว พร้อมกันนั้นยังปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2555 ของประเทศลง
นอกจากนี้ เฟด ยังส่งสัญญาณด้วยว่า อาจจะใช้ความพยายามผ่อนคลายทางการเงินครั้งนี้ ไปจนกระทั่งพบเห็นทิศทางที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปเป็นร่าง ในตลาดแรงงานสหรัฐ ที่เวลานี้ ตัวเลขคนว่างงานยังสูงถึง 8.1%
เฟด ยังชี้ให้เห็นถึงการเติบโตที่อ่อนแอของเศรษฐกิจและความเฉื่อยชาในตลาดงาน จึงจะอัดฉีดเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ ในตราสารหนี้ประเภท ที่มีหลักทรัพย์จำนองค้ำประกันในแต่ละเดือน ตามแผนปฏิบัติการแบบเปิด ที่มีเป้าหมายสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัยพ์ที่กำลังมีปัญหา
ถ้อยแถลงของเฟด ระบุว่า มาตรการเเหล่านี้จะช่วยลดความกดดันเรื่องดอกเบี้ยระยะยาว สนับสนุนตลาดสินเชื่อ และช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางการเงินให้ผ่อนคลายมากขึ้น
อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจจะส่งผลลบในระยะสั้นต่อผู้บริโภค ผ่านทางการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและเชื้อเพลิง โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคยทะยานขึ้นเหนือ 120 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเวลาไม่กี่เดือนหลังจากเฟดประกาศใช้ QE2 ในปี 2553
แต่นักเศรษฐศาสตร์ ก็มองว่า การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพในปัจจุบัน และราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐ ที่ระดับปัจจุบัน ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง ดังนั้น ปัจจัยดังกล่าวจึงเปิดโอกาสให้เฟดดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น