สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
"กสท-ทรู" ถกแก้สัญญา 3 จีชื่นมื่น ฟากเอไอเอส-ดีแทคฟ้อง กสทช.เลือกปฏิบัติ
"กสท-ทรู" จับเข่าถกแก้สัญญา 3 จีตามคำสั่ง "กสทช." มั่นใจเคลียร์ได้ภายใน 30 วัน ด้าน
เอไอเอส-ดีแทคผนึกกำลังฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง ให้เพิกถอนประกาศกำหนดอัตราค่าโทรขั้นสูงที่
0.99 บาทต่อนาที ซึ่งมีผลบังคับเฉพาะเอไอเอสและดีแทค ในฐานะผู้ให้บริการรายใหญ่ ระบุเลือกปฏิบัติ
ไม่เป็นธรรม
เอกชนแนะรัฐลุยเออีซี จี้คลังเว้นภาษีเงินปันผลต่างประเทศ
นายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมายภาษีอากร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า ภาคเอกชนขอเรียกร้องให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เร่ง
พิจารณาผลักดันร่างแก้ไขพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ก.) ฉบับที่ 442 ว่าด้วยการยกเว้นภาษีให้กับบริษัทไทย
ที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ ต่อการสนับสนุนให้ธุรกิจคนไทยออกไป
ลงทุนต่างประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล และยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจไทยในการ
เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 58
"เสี่ยปั้น" เปรี้ยงอสังหาไม่มีฟองสบู่
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า
ปัจจุบันการปล่อยสินเชื่อของระบบธนาคารสอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจ ซึ่งตามปกติแล้วสินเชื่อจะมีอัตรา
การเติบโต 1.5 เท่าของอัตราการเติบโตเศรษฐกิจโดยปีนี้เศรษฐกิจโต 5-6% ส่งผลให้สินเชื่อโต 8-10%
และหากสินเชื่อเติบโตแบบร้อนแรง มีการเร่งเครื่องเกินตัวเหมือนช่วงก่อนวิกฤติปี 40 ที่เศรษฐกิจโต 10%
แต่ยอดสินเชื่อเพิ่มขึ้น 20% และเศรษฐกิจเติบโตแบบไม่มีเสถียรภาพ เศรษฐกิจก็จะมีปัญหา
รัฐพร้อมรับมือวิกฤติ! วาง 6 แนวทางกู้เศรษฐกิจไทยพ้นมรสุม
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.
เศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้หารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป ซึ่งที่ประชุม
ยังกังวลว่าอาจเกิดผลกระทบต่อไทยได้ แม้ว่าปัญหาเศรษฐกิจของยุโรปจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น หลังกลุ่มผู้นำ
ประเทศของยุโรปได้ประชุมและกำหนดแนวทางการปัญหาวิกฤติจนได้ข้อสรุปแล้วก็ตาม โดยเห็นว่า ไทย
จะต้องกำหนดแนวทางในการรับมืออย่างจริงจัง 6 เรื่อง โดยเฉพาะการเน้นรักษาเสถียรสภาเศรษฐกิจ
ของประเทศให้เกิดความมั่นคง ทั้งการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย อัตราการว่างงาน ราคา
พลังงาน และราคาสินค้า เพื่อรองรับวิกฤติเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น
ททท.เฝ้าระวังตลาดยุโรป
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้าน ตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานททท.ที่อยู่ในภูมิภาคยุโรปทุกแห่ง
ติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์
หากมีแนวโน้มที่จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ ก็พร้อมที่จะปรับแผนการทำงานและงบประมาณ
ไปมุ่งดำเนินการในตลาดซึ่งมีแนวโน้มที่ดีกว่า โดยเบื้องต้นตัวเลขนักท่องเที่ยวตลาดยุโรป 5 เดือนแรก
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยังขยายตัว 7-8% การจองสายการบินยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ ขณะที่
อังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ยังมีจำนวน นักท่องเที่ยวเป็นปกติ และจากการรวบรวมข้อมูลของ
ททท. พบว่า มีหลายตลาดอย่างอิตาลี และหลายประเทศเลือกเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้น แทนที่จะไปเที่ยว
อเมริกา หรือแอฟริกาใต้ ซึ่งต้องเสีย ค่าใช้จ่ายในเรื่องที่พัก อาหาร และช็อปปิ้ง ที่แพงกว่าประเทศไทย
ฉะนั้น ในวิกฤติก็ยังเป็นโอกาส ที่ไทยยังได้เปรียบเรื่องความคุ้มค่าเงิน
แบงก์กันสำรองเตรียมรับมือหนี้เน่า
นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเห็นการ
กันสำรองหนี้ของระบบธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นเพื่อสะสมฐานะทางการเงินรองรับวิกฤติยูโรโซน และการ
ชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ตามแนวทางที่ ธปท.ได้หารือกับผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
โดยมีการนำกำไรที่มีอยู่ในระดับสูงตัดมาตั้งเป็นการกันสำรองหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ไทยมี
ภูมิคุ้มกันที่ดีและมีฐานการเงินเข้มแข็ง รองรับปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ที่อาจเพิ่มขึ้นจากวิกฤติได้ ซึ่ง
แต่ละแห่งจะเพิ่มเงินที่จะกันสำรองในอัตราที่ต่างกัน ตามฐานะของธนาคารและวงเงินกันสำรองเดิมที่มีและ
งวดเดือน มิ.ย.เห็นสัดส่วนการกันสำรองเพิ่มขึ้นแล้ว หากมีปัญหาหนี้เสียเพิ่ม ฐานะของธนาคารพาณิชย์จะ
ได้ไม่ได้รับผลกระทบ
พลิกช่วงโลว์ซีซั่นบูมท่องเที่ยวนอกกระแส "พี.เค." ชูอันซีนไทยแลนด์
"พี.เค." รุกจัดงานไทยเที่ยวไทยครั้งพิเศษ บูมธุรกิจท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนช่วงโลว์ซีชั่น ขานรับ
พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแนวใหม่ ชูอันซีนไทยแลนด์ และบูติก
โฮเต็ล พร้อมธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจรกว่า 680 ราย มารองรับฤดูท่องเที่ยวนอกกระแส คาดเม็ดเงิน
สะพัดมากกว่า 200 ล้านบาท
"กบง." หน้าตื่นเบรกขึ้นดีเซล ปตท.-บางจากแห่ขึ้นเบนซิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทบางจาก ปิโตรเลียม จำกัด
(มหาชน) ได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนเซนและแก๊สโซฮอลล์ 50 สตางค์ต่อลิต มีผลตั้งแต่วันที่ 5
ก.ค.เป็นต้นไป ส่วนราคาน้ำมันดีเซลคงเดิม โดยราคาน้ำมันใหม่เป็นดังนี้เบนซิน 91 อยู่ที่ 40.55 บาทต่อ
ลิตร
อี 20 อยู่ที่ 32.58 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอลล์ 95 อยู่ที่ 36.23 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอลล์ 91 อยู่ที่ 34.48
บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลอยู่ที่ 29.83 บาทต่อลิตร
สิ่งทอกระทุ้งรัฐกฎหมายหนุนเอกชน หนีตายหอบเงินลงทุนในต่างประเทศ!
นายชวลิต นิ่มละออ ประธานกรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โอเรียลตอลการ์เมน
จำกัด กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "SMEs Roadmap : เปิดแนวรุก AEC ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ" ว่า ภาค
เอกชนต้องการให้หน่วยงานรัฐแก้กฎหมายเพื่อปรับหน้าที่การทำงานในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยไปลงทุน
ในต่างประเทศ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 หน่วยงาน คือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงาน
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งรัฐบาลจะต้องแก้ไขกฎหมาย
ทันทีไม่ใช่รอให้ถึงปี 2558 จะไม่ทัน โดยที่ผ่านมารัฐบาลเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้และถ้าจะแก้กฎหมายอื่น
ก็คงทำได้
เชื่อมั่นพุ่งคนไทยมีความหวัง ภาคธุรกิจฟื้นตัวจากน้ำท่วม-การเมืองไม่รุนแรง
นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่น
ผู้บริโภคเดือน มิ.ย.2555 ที่สำรวจจากประชาชนทั่วไป 2,232 คน ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวดีขึ้น โดย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 78.6 เพิ่มขึ้นจาก 77.1 ในเดือน พ.ค. ส่วนดัชนีความ
เชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 57.9 เพิ่มขึ้นจาก 56.8 และดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตอยู่ที่ 86.0 จาก
84.4 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ที่ 68.5 เพิ่มขึ้นจาก 67.1 ใน
เดือน พ.ค.2555 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 69.6 เพิ่มจาก 68.1 และดัชนี
ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 97.8 เพิ่มขึ้นจาก 96.1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น