นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ประเมินว่าจะมีการเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาเป็นแรงส่งให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ โดยสาเหตุของการแกว่งตัวเป็นผลต่อเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะออกมามีทิศทางเป็นอย่างไร รวมไปถึงนักลงทุนยังคงจับตามองการประชุมของเฟดในคืนนี้ว่าจะมีการลดวงเงิน QE หรือไม่
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่า ดัชนีจะผันผวนสลับทั้งแดนบวกและแดนลบ หลังจากที่ยังคงเผชิญกับปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ รวมไปถึงมีความกังวลว่าจะมีการลดวงเงินในซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของเฟดอีก 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนให้ถือรอจังหวะความชัดเจนด้านการเมืองเป็นหลัก โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1260 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 1280 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,180.81 ล้านบาท ปิดที่ 173.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,851.03 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,224.83 ล้านบาท ปิดที่ 6.85 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,132.54 ล้านบาท ปิดที่ 70.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 994.03 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น