General News
----------------
• มูดี้ส์ เตือนให้รัฐบาลสโลเวเนียเร่งแก้ปัญหาหนี้เสียในภาคสถาบันการเงินและเร่งโอนสิน ทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์ (แยก Bad Bank กับ Good bank)
ทั้งนี้ สโลเวเนียหลีกเลี่ยงการเป็นสมาชิกยูโรโซนประเทศที่ 6 ต่อจากไซปรัส ที่ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน โดยรัฐบาลสโลเวเนียไปออกตั๋วเงินคลังอายุ 18 เดือน วงเงิน 500 ล้านยูโร (657 ล้านดอลลาร์) เพื่อนำไปเพิ่มทุนให้กับธนาคารที่ประสบปัญหาทางการเงิน
• อังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวว่า การที่ IMF เตือนเรื่องเศรษฐกิจเป็นการตอกย้ำว่าสมาชิกยูโรโซนต้องตั้งใจปฏิรูปในด้านต่างๆ และทำให้ยูโรโซนสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ทั้งนี้ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกสู่ 3.3% ในปีนี้ ซึ่งลดลง 0.2% จากที่ประเมินไว้เมื่อเดือน ม.ค. โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว 0.3%
• อิตาลีสั่งอายัดสินทรัพย์มูลค่า 1.8 พันล้านยูโร หรือราว 70,000 ล้านบาท ของธนาคารโนมูระของญี่ปุ่น ระหว่างสอบสวนคดีฉ้อโกงที่พัวพันกับธนาคาร มอนเต เดอีปาสกี ดิ ซีนา ของอิตาลี ซึ่งอยู่ในรูปของหลักทรัพย์ค้ำประกันที่เรียกว่า "Alexandria trade"
ทั้งนี้ มอนเต เดอี ปาสกี ดิ ซีนา ระดมเงินจากการทำข้อตกลงซื้อคืนในระยะยาวกับโนมูระ เพื่อเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอิตาลี 3 พันล้านยูโร ซึ่งเชื่อว่าทำเพื่อปกปิดยอดขาดทุนโดยใช้วิธีกระจายตัวเลขขาดทุนดังกล่าวออกไป 30 ปี
• จำนวนผู้ที่ไม่มีงานทำในอังกฤษเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างก็ชะลอตัวลง บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานของอังกฤษกำลังย่ำแย่อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจอ่อนแอ
• IMF ชี้ว่า เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้นกว่าเมื่อครึ่งปีก่อน แต่อัตราการขยายตัวที่ไม่เท่ากันในระหว่างภูมิภาคต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจโลกมีอัตราการขยายตัวใน 3 ระดับ ตั้งแต่ ปรับตัวน่าพอใจ-อยู่ระหว่างการฟื้นตัว-และย่ำแย่
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เชื่อว่าอยู่ในกลุ่มแรก คือ ปรับตัวน่าพอใจ เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นหลังจากชะลอลงเล็กน้อยในปีที่แล้ว การขยายตัวจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยการปรับปรุงฐานะการคลังและดำเนินนโยบายควบคุมความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
• ธ.ดีบีเอส ฮ่องกง ปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในปีนี้เหลือ 8.5% จากเดิม 9% เนื่องจากปริมาณการบริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งมีเหตุจากรัฐบาลจีนรณรงค์ให้ประหยัด และจากการที่ภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากความพยายามควบคุมมลภาวะของรัฐบาล ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ได้แก่ มาตรการควบคุมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และการลงทุนด้านสาธารณูปโภคซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้
• ธ.กลางญี่ปุ่น (BOJ) จะจัดการประชุมร่วมกับภาคการเงินเพื่อหารือเรื่องมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุก และปรับปรุงการติดต่อสื่อสารกับนักลงทุนในตลาดเกี่ยวกับการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นของ BOJ
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นในเดือน มี.ค. ปรับตัวขึ้น 0.6% จากเดือน ก.พ. มาอยู่ที่ 44.8 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2550 หลังจากนโยบายเศรษฐกิจของ นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ช่วยฉุดเงินเยนให้อ่อนค่าลง และหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความหวังมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
• รมว.คลัง เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากปัจจัยเศรษฐกิจนอกประเทศ ทั้งกรณีจีนที่มี GDP เติบโตลดลงเหลือ 7.7% และกรณีที่ FED อาจจะหยุดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในสิ้นปีนี้ โดยระบุว่า ไทยต้องเน้นเรื่องการบริหารเศรษฐกิจ การจัดเก็บรายได้ให้เหมาะสม และการสร้างบรรยากาศกับเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ดี
• สศค. วิเคราะห์ว่า หนี้สาธารณะของไทยในปัจจุบันที่ 44.05% ของ GDPเป็นระดับที่มั่นคง และต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 60% ของ GDP นอกจากนี้ สัดส่วนของหนี้สาธารณะของไทยกว่า 96% ยังเป็นหนี้ระยะยาว และกว่า 93% เป็นหนี้สกุลเงินบาท ทำให้รัฐบาลมีความยืดหยุ่นในการวางแผนการชำระคืนได้มากขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและแผนบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาทนั้น จะกระทบหนี้สาธารณะไทยเป็นไม่เกิน 50% ของ GDP ภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี
Equity Market
----------------
• SET Index ปิดที่ 1,521.53 จุด ลดลง 5.79 จุด หรือ -0.38% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 56,936 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 197.89 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยในภาพรวมน่าจะยังแกว่งตัวผันผวน โดยอาจมีการเทขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังกระแสเงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ยังมียอดซื้อสะสมในเกณฑ์ที่สูง รวมทั้งต้องติดตามภาพรวมเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนว่าจะมีมาตรการอะไรออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่
Fixed Income Market
------------------------
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.06% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 2 ปี วงเงิน 35,000 ล้านบาท
Gold Corner
--------------
• จิม โรเจอร์ส เชื่อว่าแนวโน้มราคาทองคำจะยังคงลดลงได้อีก เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงปรับฐานหลังจากที่ราคาปรับขึ้นมาหลายปีติดต่อกัน
ดังนั้น จึงยังไม่ใช่จังหวะเข้าซื้อในขณะนี้ แต่ยังยืนยันคาดการณ์เดิมที่ระบุว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในทศวรรษหน้า
• รมต.คลัง ไซปรัส กล่าวว่า การขายทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศจะต้องผ่านความเห็นชอบจากธนาคารกลางไซปรัสตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก่อน แต่เชื่อว่าจะได้รับความเห็นชอบ เนื่องจากเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ปัญหาในภาคการเงินของประเทศ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาทองคำโลกระบุว่าไซปรัสมีทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 13.9 ตัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น