หน้าเว็บ

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 24/4/56

General News
----------------



• บีนอยต์ โคเร กรรมการบริหารของ ECB เปิดเผยว่า ECB ยังไม่เห็นการปรับตัวดีขึ้นของข้อมูลเศรษฐกิจนับตั้งแต่การประชุมครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยหลังการแสดงความเห็นดังกล่าว ทำให้ตลาดมองว่าในการประชุมสัปดาห์หน้า ECB อาจลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 0.75% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนเรื่องที่ ECB จะช่วยเหลือด้านเงินกู้สำหรับบริษัท SME ได้อย่างไรนั้น บีนอยต์ โคเร ระบุว่า ความเสี่ยงในเศรษฐกิจต้องได้รับการแก้ไขโดยการปฏิรูปโครงสร้างและนโยบายเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของ ECB ที่จะขจัดความเสี่ยงออกจากธนาคารต่างๆ

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือน เม.ย.จากการสำรวจของ มาร์กิต อยู่ที่ 46.5 (ระดับที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจยังเผชิญภาวะหดตัว) เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกรายใหญ่อย่างเยอรมนี เนื่องจากดัชนี PMI เบื้องต้นของเยอรมนีพลิกจากภาวะขยายตัวมาเป็น “หดตัว” ในเดือน เม.ย.

• ธ.กลางเยอรมนี ชี้ว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีอาจขยายตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้และมีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 2 เนื่องจากบรรยากาศทางธุรกิจปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีก่อน และเป็นไปในเชิงบวกอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปีนี้ ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังทรงตัวในระดับที่ค่อนข้างสูง และภาคบริการน่าจะมีแนวโน้มขยายตัว โดยคาดว่า GDP จะขยายตัว 0.8% ในปีนี้และจำนวนผู้ว่างงานจะยังคงลดลงไปอยู่ที่ 2.9 ล้านคน ส่วนอัตราเงินเฟ้อจะปรับลงสู่ 1.7%

• มาร์กิต ระบุว่า ดัชนี PMI เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีในเดือน เม.ย.ลดลงสู่ 48.8 (จาก 50.6 ในเดือน มี.ค.) การพลิกมาอยู่ในภาวะหดตัวแสดงถึงการหดตัวของภาคธุรกิจหลังจากขยายตัวได้ในเดือนก่อน

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวสวนทางกับรายงานของธนาคารกลางเยอรมนี ที่ระบุว่า อาจขยายตัวในไตรมาสแรกปีนี้ และมีแนวโน้มจะกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 2

• ดัชนี PMI เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของฝรั่งเศสในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 44.2 จาก 41.9 ในเดือน มี.ค. บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจต่างๆ ยังอยู่ในภาวะหดตัว แต่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าแสดงถึงอัตราการหดตัวที่ช้าลง

• Istat (ส.สถิติแห่งชาติของอิตาลี) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆ ในเดือน เม.ย.นี้ว่า ...

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีเพิ่มขึ้นไปแตะ 86.3 ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค. ปีที่แล้ว
ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นสู่ 73.5 จาก 69.2 ในเดือนก่อนหน้า
ดัชนีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจขยับขึ้นไปอยู่ที่ 80.8 จากเดิม 80.3

ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆ ที่ปรับตัวดีขึ้นนี้มาจากมุมมองในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าจะมีปัญหาทางการเมืองที่ยังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปลายเดือน ก.พ.

• สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือน มี.ค.ลดลง 0.6% ไปสู่ 4.92 ล้านยูนิต ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้น และต่ำกว่าตัวเลขของเดือน ก.พ.ที่เป็น 4.95 ล้านยูนิต

อนึ่ง ยอดขายบ้านมือสองที่อ่อนแรงลงแสดงว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังไม่มีการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

• สมาคมผู้ประกอบการร้านค้าญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายของซูเปอร์มาร์เก็ตที่ญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับแรงหนุนส่วนหนึ่งจากยอดขายเสื้อผ้าที่เพิ่มขึ้น โดยยอดขายเสื้อผ้าซึ่งคิดเป็น 10.5% ของสัดส่วนยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 7.1% ขณะที่ยอดขายอาหารซึ่งเป็น 61.8% ของยอดขายทั้งหมดนั้นลดลง 0.3%

• ธ.กลางเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ภาวะการค้าของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นในเดือน มี.ค. เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าลดลงในอัตราที่สูงกว่าราคาสินค้าส่งออก โดยดัชนีภาวะการค้าสินค้าเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากที่ลดลง 0.2% ในเดือน ก.พ.

• HSBC Holdings เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนลดลงแตะ 50.5 ในเดือน เม.ย. จาก 51.6 ในเดือน มี.ค. และแม้ว่าดัชนีจะลดลงแต่ก็ยังอยู่เหนือระดับ 50 แสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว แต่เป็นไปในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ว่าความต้องการจากต่างประเทศยังคงอ่อนแรง

• สมาคมเหล็กโลก เปิดเผยว่า การผลิตเหล็กกล้าดิบของจีนเพิ่มขึ้นไปแตะ 66.29 ล้านตันในเดือน มี.ค.หรือเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน โดยจีนผลิตเหล็กกล้าดิบได้ 191.75 ตัน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบรายปี

• ที่ประชุม รมว.ตปท.สหภาพยุโรปมีมติยกเลิกการคว่ำบาตรพม่าทั้งหมด (แต่ให้คงการคว่ำบาตรด้านอาวุธ) ซึ่งเป็นการจะเปิดทางให้พม่าและ EU เสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น

ทั้งนี้ EU จะยกเลิกการอายัดสินทรัพย์และการปิดล้อมด้านท่องเที่ยวต่อเจ้าหน้าที่รัฐพม่า และยกเลิกมาตรการระงับทางการค้าและการลงทุนในอุตสาหกรรมป่าไม้กับอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ด้วย

Equity Market
---------------



• SET Index ปิดที่ 1,549.35 จุด ลดลงขึ้น 9.75 จุด หรือ -0.63% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 53,682.96 ล้านบาท กลุ่มธนาคารอย่าง SCB +0.5% โดยคาดว่าจะเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้แก่ CPALL ในการเข้าซื้อหุ้น MAKRO และตลาดปรับตัวขึ้นทะลุ 1560 จุดได้ ด้วยแรงเก็งกำไรรายหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม ด้วยบรรยากาศการลงทุนในเอเชียที่เป็นลบ ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงเนื่องจากดัชนี HSBC PMI ภาคการผลิตของจีนออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ SET INDEX ปรับตัวลงตามภูมิภาค

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
-----------------------------------------


นักลงทุนสถาบัน -1,272.10
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +407.68
นักลงทุนต่างชาติ -1,230.08
นักลงทุนทั่วไป +2,094.49

• ดัชนีเซี้ยงไฮ้ของจีนลดลง 2.6% ปรับตัวลงมากสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากดัชนี HSBC PMI ภาคการผลิตเดือน เม.ย.ของจีนออกมาอยู่ที่ 50.5 จุด ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเป็น 51.4 จุด โดยกลุ่มวัสดุก่อสร้างปรับตัวลง (Anhui Conch Cement -5.9% หลังกำไรสุทธิใน 1Q56 อยู่ที่ 972 ล้านหยวนลดลงจากใน 1Q55 ที่ 1.25 พันล้านหยวน และ Sany Heavy Industry -3.9%)

• ผู้บริหาร CPALL แจ้งว่า CPALL จะเข้าซื้อหุ้น MAKRO 154.43 ล้านหุ้นที่ 787 บาท/หุ้นโดยคาดว่าจะใช้เงินซื้อหุ้น MAKRO ราว 1.89 แสนล้านบาท เพราะมีแผนจะใช้แบรนด์ "สยามแม็คโคร" บุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านและประเทศจีน

ส่วนเงินที่จะใช้ซื้อ MAKRO จะมาจากเงินทุนหมุนเวียน 10% ส่วนที่เหลือจะกู้สถาบันการเงินในสกุลดอลลาร์

ทั้งนี้ ผู้บริหาร ธ.ไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ CPALL คาดว่าจะมีแบงก์ 7-8 แห่งที่ร่วมปล่อยกู้ ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 4 นี้ จะเริ่มนำผลประกอบการของ MAKRO เข้าสู่งบการเงินของ CPALL ได้

และภายหลังจากดีลซื้อหุ้น MAKRO เสร็จแล้ว ธนาคารจะเข้าไปจัดโครงสร้างทางการเงินให้ CPALL ใหม่เพื่อให้ต้นทุนถูกลง โดยอาจจะใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบอื่น เช่น การออกหุ้นกู้ หรือการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมองว่า MAKRO มีที่ดินอยู่ราว 20-30 ไร่ ที่เอาไปออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้

Fixed Income Market
------------------------


• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวเล็กน้อยในกรอบ -0.02% ถึง 0.00%

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น