หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 31/8/55

General News


• จำนวนผู้ว่างงานในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 9,000 รายในเดือน ส.ค. จาก 7,000 รายในเดือน ก.ค.และอัตราว่างงานยังคงทรงตัวที่ 6.8% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. ทำให้ขณะนี้เยอรมนีมีผู้ว่างงานจำนวนทั้งสิ้น 2.9 ล้านคนในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบกับ 2.89 ล้านคนในเดือน ก.ค.

• ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในภาคการผลิตของอิตาลีอยู่ที่ระดับ 87.2 ในเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 87.1 ในเดือน ก.ค. โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แม้ว่ามุมมองที่เกี่ยวกับแนวโน้มการผลิตในระยะใกล้จะย่ำแย่ลง

• บ.เรียลตีแทรคของสหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านที่ถูกธนาคารยึดเพราะติดจำนองหรือที่อยู่ในขั้นตอนการยึดทรัพย์ในไตรมาส 2 มีสัดส่วน 23% ของยอดขายบ้านทั้งหมด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 22% ในไตรมาสแรก เป็นการบ่งชี้ว่าธนาคารต่างๆ กำลังเร่งจัดการกับสต็อกบ้านที่มีปัญหา เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการยึดทรัพย์ที่ซับซ้อนและกินเวลานาน โดยรัฐจอร์เจียและรัฐเนวาดามียอดขายบ้านที่ถูกธนาคารยึดสูงที่สุด

• การใช้จ่ายส่วนบุคคลของสหรัฐเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนที่ผ่านมา นับเป็นสัญญาณว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันเริ่มที่จะกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แม้เศรษฐกิจในภาพรวมยังไม่แน่นอนก็ตาม โดยการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนถึงสองในสามของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ

• มูดีส์ ระบุว่า ความเสี่ยงช่วงขาลงที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี             2555-2556       นั้นมีมากขึ้น จากการขยายตัวของเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็จะชะลอตัวลงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยความเสี่ยงหลักๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ ภาวะถดถอยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในยูโรโซน ความเสี่ยงของภาวะฮาร์ดแลนด์ดิ้งในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ภาวะความผันผวนด้านราคาน้ำมัน และความเสี่ยงด้านการคุมเข้มทางการคลังของสหรัฐ

• นายเหวิน เจีย เป่า กล่าวว่า จีนหวังว่าอียูจะสามารถดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดด้านการคลังและการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างสมดุล ซึ่งถือเป็นแนวทางพื้นฐานที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ และยินดีที่จะเดินหน้าลงทุนในพันธบัตรของกลุ่มอียูต่อไป บนเงื่อนไขของการประเมินความเสี่ยงอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะปรับปรุงการสื่อสารและการให้คำปรึกษาร่วมกับอียู เพื่อสนับสนุนประเทศสมาชิกของอียูที่ประสบปัญหาหนี้

• GDP ไตรมาส 2 ของฟิลิปปินส์อยู่ที่ระดับ 5.9% ปรับขึ้นจากระดับ 3.6%ในปีที่แล้ว การเติบโตส่วนใหญ่มาจากอุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวขึ้นเนื่องจากปัจจัยต่างๆ ในเชิงบวก รวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภค การเติบโตที่ดีขึ้นของการค้าในต่างประเทศ และความแข็งแกร่งด้านการก่อสร้างได้กระตุ้นภาคอุตสาหกรรมให้เติบโต

• สนง.เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้จะโตในระดับ 5-6% เท่านั้น แนะนำให้จับตาปัญหาวิกฤติในยูโรโซนอย่างใกล้ชิด หลังพบว่ามีผลกระทบต่อการส่งออกไทยอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดการส่งออกของไทยไปตลาดยุโรปในเดือน ก.ค.หดตัวถึง 21.4% ซึ่งถือว่าเป็นการหดตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากในเดือน มิ.ย.ที่หดตัว 17.6%

• BOI เปิดเผยผลการศึกษาและวิเคราะห์ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทยปี 2555 พบว่า ร้อยละ 65.20 ยังคงรักษาระดับการลงทุนที่มีในประเทศไทย และอีกร้อยละ 31.62 มีแผนจะขยายกิจการในปีนี้ จากเหตุผลเรื่องสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจาก BOI และ เชื่อมั่นเศรษฐกิจในปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

• หนึ่งในบอร์ด กนง. เปิดเผยว่า การพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 5 ก.ย.นี้คงไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน ส่วนจะปรับลงหรือไม่นั้น ให้รอผลการประชุม เพราะปัจจัยเสี่ยงด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะขยายตัวช้ามีมากกว่าเงินเฟ้อ ทำให้ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยหากมีการปรับดอกเบี้ยก็จะอยู่บนพื้นฐานการพิจารณาจาก กนง. เอง ไม่ได้เกิดจากคำสั่งของฝ่ายใด

• ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) รายงานว่านโยบายการจำนำข้าวของไทยเป็นโครงการลดแรงจูงใจผู้ส่งออก ทำให้การส่งออกลดลงไปแล้ว 43.1% หรือ 2.86 ล้านตัน โดยหากต้องการดำเนินโครงการให้สำเร็จ ราคาข้าวของไทยจะสูงกว่าราคาตลาดโลกถึง 2 เท่า ซึ่งแพงกว่าประเทศคู่แข่ง ทำให้ข้าวไทยอาจต้องกลับมาอยู่ตลาดในประเทศหรือส่งออกไม่ได้

• ก.คมนาคมจัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมทั้งหมด 55 โครงการ วงเงินประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาอนาคตของประเทศในระยะยาวภายในปี 2563 รวมทั้งโครงการพัฒนาระบบคมนาคมรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยรายละเอียดโครงการ ได้แก่ ทางหลวงวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ทางหลวงพิเศษ รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โครงการเขื่อนยกระดับ ท่าเรือน้ำลึก การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ฯลฯ

Equity Market 


• SET Index ปิดที่ 1,214.55 จุด ลดลง 5.61 จุด หรือ -0.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26,400.69 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,204.38 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยปรับลดลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าจะมี QE ออกมา และปัญหาทางยุโรปยังต้องใช้เวลาอีกนานในการแก้ไข

Fixed Income Market


• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยค่อนข้างทรงตัว เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ในช่วง -0.01% ถึง 0.02% โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ มูลค่า 5,314 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 14 วัน มูลค่า 42,000 ล้านบาท

--------------------------------------------------------------


กองทุนบัวหลวง มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน ขอเสนอ แอพพลิเคชั่น “Bualuang Funds: iBuddy” สำหรับ iPhone และ iPad ที่จะย่อโลกการเงินและการลงทุนไว้ให้คุณ พบกับข้อมูลข่าวสารต่างๆ มากมายในโลกการเงินและการลงทุน ข่าวสารอัพเดทและบทความดีๆ จากกองทุนบัวหลวง พอร์ตจำลองการลงทุนที่คุณกำหนดเองได้ และ Location ระบุตำแหน่งสาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ

ดาวน์โหลด iBuddy ฟรี! ผ่าน App Store เพียงพิมพ์ iBuddy หรือ BBLAM

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น