บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บริษัท เอ็ม ดี เอฟ แพลนเนอร์ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่
23 กุมภาพันธ์ 2532 ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2537 และเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2538 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 บริษัทมีทุนชำระแล้ว 1,305,839,127 บาท
บริษัทและบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ (Panel Board) เพื่อใช้ทดแทนไม้ธรรมชาติ
และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ
1. แผ่นเอ็มดีเอฟ ดำเนินการผลิตโดยบริษัทและบริษัทย่อยของบริษัท เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเส้นใย (Fibre)
ของไม้หรือพืชที่มีเส้นใยมาผสมกับสารยึดเกาะ แล้วจึงอัดเป็นแผ่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน และมีความหนาแน่นสูงเท่ากันตลอด
ทั้งแผ่น
2. แผ่นปาร์ติเกิ้ล ดำเนินการผลิตโดยบริษัทย่อยของบริษัท เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำไม้ชิ้นเล็กๆ มาอัดติดกัน
โดยใช้สารยึดเกาะเป็นตัวเชื่อมโครงสร้างของแผ่นปาร์ติเกิ้ล ชั้นบนและชั้นล่างจะเป็นชิ้นไม้ละเอียด ส่วนชั้นกลางจะเป็นชิ้น
ไม้หยาบ ทำให้แผ่นปาร์ติเกิ้ล ไม่เหมาะกับการยึดติดด้วยตะปู และไม่สามารถตกแต่งขอบ หรือทำลิ้นร่องบนผิวได้
การเปลี่ยนแปลงในปี 2554
ปี 2554 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลประกอบการ กำไรสุทธิรวม 467 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2553 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 827 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 360 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 639 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าไปต่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 11 และร้อยละ 6 ตามลำดับ แต่ผลกระทบจากหลายปัจจัยในปี 2554 ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งส่งให้เกิดสภาวะการแข่งขันในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ราคาน้ำมันตลาดโลก และเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีใบริเวณภาคใต้ และช่วงปลายปีเป็นวงกว้างตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่างถึงภาคกลางในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสำคัญคือไม้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นตามราคายางพารา และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกาวมีราคาเพิ่มขึ้นตาราคาน้ำมันในตลาดโลก กำไรขั้นต้นเมื่อเทียบกับปี 2553 จึงลดลงประมาณร้อยละ 6 ทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยลดลงประมาณร้อยละ 5
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2554 โครงการขยายกำลังการผลิตแผ่นไม้พื้นสำเร็จรูป กำลังการผลิต 4,147,200 ตารางเมตรต่อปี ที่โรงงานสระบุรี ได้เริ่มดำเนินการผลิตและจำหน่ายได้ตามแผนการดำเนินงาน ส่วนโครงการขยายกำลังการผลิตแผ่น
ปาร์ติเกิ้ล ที่โรงงานสระบุรี กำลังการผลิต 240,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี คาดว่าจะสามารถผลิตและจำหน่ายได้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2555 ตามกำหนดการ
บริษัทคาดการณ์ว่าต้นทุนการผลิตสำหรับปี 2555 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นและทรงตัวในระดับราคาที่สูง ส่งผลให้ราคาต้นทุนวัตถุดิบในภาคการผลิตต่างๆ เพิ่มขึ้น สภาวะการแข่งขันในตลาดจะมีความรุนแรงอันเนื่องมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ บริษัทและบริษัทย่อยมีการติดตามและบริหารจัดการผลกระทบด้านต้นทุนการผลิตของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้สามารถแข่งขันได้ โดยมีนโยบายการผลิตเต็มกำลังการผลิตเพื่อบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ จัดการช่องทางการจำหน่ายให้เหมาะสมกับกำลังการผลิตและรองรับการแข่งขันในตลาดในด้านการเงินในรอบปี 2554 บริษัทได้ชำระคืนหนี้ระยะยาวตามกำหนด 1,696 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 บริษัทและบริษัทย่อย มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 8,002 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 6,173 ล้านบาท มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 1.30 ต่อ 1 ถือว่าฐานะการเงินยังมีความมั่นคง และในปี 2554 บริษัทได้จ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นโดยจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2553 ให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมประมาณ 157 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาทซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลหลังหักส่วนที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานปี 2553 ที่จ่ายในปี 2553 รวมประมาณ 196 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท แล้ว__
งวดงบการเงิน | งบปี 51 | งบปี 52 | งบปี 53 | งบปี 54 | ไตรมาส2/55 |
ณ วันที่ | 31/12/2551 | 31/12/2552 | 31/12/2553 | 31/12/2554 | 30/6/2555 |
บัญชีทางการเงินที่สำคัญ | |||||
สินทรัพย์รวม | 14,647.32 | 14,494.92 | 13,533.72 | 14,175.29 | 14,524.54 |
หนี้สินรวม | 9,169.14 | 9,063.43 | 7,576.03 | 8,002.19 | 8,240.91 |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | 5,478.17 | 5,431.50 | 5,957.69 | 6,173.10 | 6,283.64 |
มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว | 1,305.84 | 1,305.84 | 1,305.84 | 1,305.84 | 1,305.84 |
รายได้รวม | 7,374.74 | 7,483.77 | 9,666.11 | 10,297.49 | 5,347.62 |
กำไรสุทธิ | 400.10 | 123.09 | 826.54 | 467.06 | 306.41 |
กำไรต่อหุ้น (บาท) | 0.31 | 0.09 | 0.63 | 0.36 | 0.23 |
อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ | |||||
ROA(%) | 5.67 | 3.01 | 8.08 | 5.65 | 6.73 |
ROE(%) | 7.4 | 2.26 | 14.51 | 7.7 | 10.35 |
อัตรากำไรสุทธิ(%) | 5.43 | 1.64 | 8.55 | 4.54 | 5.73 |
ค่าสถิติสำคัญ | 30/12/2551 | 30/12/2552 | 30/12/2553 | 30/12/2554 | 21/8/2555 |
ณ วันที่ | |||||
ราคาล่าสุด(บาท) | 1.78 | 2.46 | 5.65 | 4.18 | 4.7 |
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด | 2,324.39 | 3,212.36 | 7,377.99 | 5,458.41 | 6,137.44 |
วันที่ของงบการเงินที่ใช้คำนวณค่าสถิติ | 30/9/2551 | 30/9/2552 | 30/9/2553 | 30/9/2554 | 30/6/2555 |
P/E (เท่า) | 3.77 | N.A. | 6.52 | 14.94 | 9.78 |
P/BV (เท่า) | 0.41 | 0.63 | 1.25 | 0.91 | 0.98 |
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (บาท) | 4.34 | 3.89 | 4.53 | 4.62 | 4.81 |
อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน(%) | 11.24 | 5.28 | 1.42 | 6.46 | 3.19 |
D/E ratio | 1.67 | 1.27 | 1.30 | 1.31 | |
รายได้รวม Growth% | 1.48% | 29.16% | 6.53% | 3.86% | |
กำไรสุทธิ Growth% | -69.24% | 571.49% | -43.49% | 31.21% | |
P/E Growth% | #VALUE! | #VALUE! | 129.14% | -34.54% | |
Price Growth% | 38.20% | 129.67% | -26.02% | 12.44% | |
Fair price | 5.94 | ||||
upside% | 26.44% |
ดูจากภาพโดยรวมทั้งหมดนะครับบ ก็ถือว่าเป็นหุ้นที่ดีตัวนึงเลยทีเดียวครับบ มีผลประกอบการที่โตครับบ เราเลยทำ fair value ออกมาที่ 5.94 ครับบโดย P/E 12 เท่าเฉลี่ย 2 ปีครับบ และประมาณการ EPS ที่ 0.48 โดยคาดว่า q3-4 จะทำได้เท่าปีที่แล้วครับบ จึงทำให้ขณะนี้ trade ที่ P/e 9 เท่า เท่านั้นครับบ มาดูเทคนิคก็ค่อนข้างดีในระยะยาวครับบ ยังไงกำไร 10-20% ก็ขายนะจะได้ได้กำไรกันทั่วหน้าครับบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น