หน้าเว็บ

วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 2/1/56

General News
------------------



• ธ.กลางกรีซประกาศว่า ภาคธนาคารกรีซต้องการเงินทุน 4.05 หมื่นล้านยูโร (5.35 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินเบื้องต้นสำหรับเม็ดเงินในการเพิ่มทุน

• ส.สถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสขยายตัว 0.1% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการปรับลงจากรายงานก่อนหน้านี้ที่ 0.2% เนื่องจากการลงทุนหดตัวลง 0.3% หลังจากไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 0.4% 

อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งขึ้นจาก 84 ในเดือน พ.ย. สู่ 86 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นเดือนแห่งการจับจ่ายใช้สอยในเทศกาลวันหยุด และเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ดัชนีปรับสูงขึ้น แต่ก็ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 100

• Bill Gross (PIMCO) คาดการณ์ว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นและพันธบัตรของสหรัฐในปี 2013 จะลดลงเหลือต่ำกว่า 5% เพราะยังมีจำนวนผู้ว่างงานอยู่เป็นจำนวนมากในอัตรา 7.5% หรือสูงกว่า โดยราคาทองคำจะสูงขึ้น และอัตราการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจจริงของประเทศที่พัฒนาแล้วจะอยู่ต่ำกว่า 2%

• สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐ รายงานว่า ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายเดือน พ.ย. สูงขึ้น 1.7% จากระดับเดือน ต.ค. ไปแตะ 106.4 โดยอยู่สูงสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง นับเป็นสัญญาณล่าสุดของการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัย

• 14.00 น.วานนี้ตามเวลาไทย วุฒิสภาสหรัฐอันมีเดโมแครทเป็นเสียงข้างมากมีมติ เห็นชอบให้ลดภาษีครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่า 450,000 ดอลลาร์ แต่ให้เก็บภาษีเพิ่มสำหรับครัวเรือนที่รายได้เกินกว่านั้น และให้ตัดลดรายจ่ายของกระทรวงต่างๆ ลงเพื่อหลีกเลี่ยง Fiscal Cliff ที่จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้มีรายได้น้อยและอาจทำให้เศรษฐกิจถดถอย และได้ส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรอันมีรีพับลิกันเป็นเสียงข้างมากลงมติต่อในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 1 ม.ค. ตามเวลาไทย 

• Timothy F. Geithner รมต.คลังสหรัฐ ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสไปเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “สามารถดึงเวลาที่ต้องตัดลดงบประมาณโดยอัตโนมัติไปได้อีกไม่กี่สัปดาห์ด้วยเทคนิคพิเศษ”

• ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ผู้นำจีน แถลงว่า จีนจะยังคงมีการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมืองต่อไปในปีนี้เพื่อนำพาประเทศไปสู่ความเจริญและทันสมัยภายใต้การบริหารของ สี จิ้นผิง ผู้นำคนใหม่ พร้อมทั้งย้ำนโยบายจีนเดียวสองระบบ ซึ่งหมายถึงเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และจะเดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์กับไต้หวันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่าย โดยจีนพร้อมจะให้ความร่วมมือกับนานาประเทศในการแก้ปัญหาทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก

• ธ.กลางจีน (PBOC) ระบุว่า จะใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อทำให้การขยายตัวของสินเชื่อเป็นไปอย่างเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และจะปฏิรูปทางการเงินท่ามกลางความอ่อนแอและไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่าสถานการณ์เงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว 

• ครม. ญี่ปุ่นแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ 4 ราย จากผู้บริหารของ โตชิบา คอร์ป และ มิตซูบิชิ เคมิคอล โฮลดิงส์ ให้เป็นสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการคลังและเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

• สิงคโปร์อาจจะเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอีกเป็นปีที่สามในปี 2013 นี้ ซึ่งจะลดโอกาสที่ธนาคารกลางจะเข้าไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 

นอกจากนี้ ยังอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในไตรมาสนี้ด้วย โดยมีอัตราการขยายตัวของ GDP ลดลงในไตรมาส 4 ปีที่แล้วเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 และคาดว่าทั้งปี 2013 จะขยายตัวได้เพียง 0.3% เท่านั้น

• พายุโซนร้อน หวู่คง ที่เข้าโจมตีภาคกลางของฟิลิปปินส์ ได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรเป็นมูลค่า 124.43 ล้านเปโซ (3.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

• ธปท. รายงานว่า เศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.ยังขยายตัวต่อเนื่องในภาพรวม จากการใช้จ่ายภาค เอกชน ทั้งการบริโภคและการลงทุน ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ ขณะที่การส่งออกทยอยปรับตัวดีขึ้น ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ธปท.ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทย ในปีหน้าเป็น 4.7% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดิมที่คาดว่าจะเป็น 4.6%

Equity Market
------------------
-


•ตลาดหุ้นที่ดัชนีเพิ่มขึ้นสูงสุด 10 อันดับแรกในปี 2555
------------------------------------------------------------



1. Venezuela IBC: +302.8%
2. Turkey XU100: +53.3% 
3. Egypt EGX 30: +49.6%
4. Pakistan KSE: +49.3%
5. Kenya NSE: +39.3%
6. Estonia Tallinn OMX: +38.2%
7. Thailand SET: +35.8%
8. Laos Composite: +35.1%
9. Nigerian Stock Exchange: +34.4%
10. Philippines PSE: +33.0%

ทั้งนี้ ไทยเพิ่มสูงสุดในเอเชีย และเป็นอันดับ 7 ของโลก

• SET Index ปิดตลาดสิ้นปี 2555 ที่ 1,391.93 จุด ลดลง 5.26 จุดหรือ -0.38% แต่เพิ่มขึ้น 35.76% เมื่อเทียบกับเมื่อสิ้นปี 2554 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,624.01 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,580.27 ล้านบาท 

ทั้งนี้ มีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,395-1,400 จุดค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นวันทำการสุดท้ายของปี ทำให้นักลงทุนบางส่วนลดความเสี่ยงด้วยการล็อคกำไรก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่

• ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานว่า ในปี 2555 มีบริษัทจดทะเบียนระดมทุนรวม 2.62 แสนล้านบาท (ไม่รวมหุ้น IPO) สูงสุดในรอบ 10 ปี โดย PTTEP ระดมทุนมากสุด 9.23 หมื่นล้านบาท ส่วนเครื่องมือทางการเงินที่ใช้มากสุดในปีนี้คือ การจ่ายหุ้นปันผล โดยมี 35 บริษัทที่จ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์

• ในปี 2555 ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยมากถึง 8.6 หมื่นล้านบาท (หลังปรับปรุงรายการ Big Lot) สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2548 ที่ซื้อสุทธิ 1.2 แสนล้านบาท ด้านนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2.4 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับสถิติ 3 ปีที่ผ่านมา 

• บล.เอเชียพลัส คาดว่า นักลงทุนสถาบันจะขาย LTF ที่ครบกำหนด 5 ปีออกไป 50%จากเม็ดเงินที่เข้าซื้อในปี 2552 ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท (ช่วง 4 ปีหลังสุดมีแรงขายในระดับ 50%-90%) อันจะกดดันตลาดหุ้นไทยในเดือน ม.ค.-ก.พ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น