หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากลบัวหลวง 21/9/55

General News
• ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือน ก.ค. โดยปัจจัยหลักทีทำให้เพิ่มขึ้นคือราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซิ้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 45.9 ในเดือน ก.ย. จาก 46.3 ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง บ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตอยู่ในภาวะหดตัว เนื่องจากดัชนียังต่ำกว่าระดับ 50

• สมาพันธ์องค์กรธุรกิจของสเปน (CEOE) เปิดเผยว่า สเปนจะมีคนว่างงานเกือบ 6 ล้านคนในปีหน้า แม้รัฐบาลจะได้ปฏิรูปตลาดแรงงานไปแล้ว และการว่างงานจะยังคงเพิ่มขึ้นจาก 25.2% ในปีนี้ เป็น 26.5% ในปี 2556

• ธนาคารกลางเดนมาร์ก ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ปีนี้จาก 1.2% ไปอยู่ที่ 0.3% เนื่องจากภาคเอกชนและผู้บริโภคลดการใช้จ่ายจากปัญหาวิกฤตทางการเงิน โดยคาดว่า GDP ในปีหน้าจะอยู่ที่ 1.6% และเป็น 1.7% ในปี 2557

• ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือน ส.ค.ลดลง 0.2% จากเดือน ก.ค. โดยยอดค้าปลีกออนไลน์ลดลงถึง 6.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับแต่เดือน ธ.ค.2550

• เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติหาแนวทางที่ยั่งยืนในระยะยาวเพื่อแก้ไข ปัญหาทางการคลังของสหรัฐ เพราะ FED มีข้อจำกัดในการหนุนเศรษฐกิจ หากสมาชิกสภาฯ ไม่สามารถสกัดกั้นมาตรการปรับขึ้นภาษีและลดรายจ่ายที่จะมีผลบังคับใช้พร้อม กันในช่วงต้นปีหน้า ที่เรียกว่าหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff)

• ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐลดลง 3,000 รายมาอยู่ที่ 382,000 ราย มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 375,000 ราย แสดงว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังไม่ยั่งยืน

• ริชาร์ด ฟิสเชอร์ ประธาน FED สาขาดัลลัส ซี่งไม่ได้เป็นกรรมการที่มีอำนาจลงมติเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายทางการเงิน ของ FED กล่าวว่า มาตรการ QE3 ไม่ช่วยกระตุ้นการจ้างงาน แต่จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และอาจสร้างความกังวลด้านเงินเฟ้อต่อตลาดได้ในอนาคต

• ดัชนีสำรวจภาคธุรกิจรายเดือน (BSI) ของออสเตรเลีย (เป็นการประเมินมูลค่าของการทำธุรกรรมการใช้บัตรเดบิทและเครดิตในระบบการ ธนาคาร ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของยอดการใช้จ่ายทั้งหมด) ลดลง 0.4% ในเดือน ส.ค. สะท้อนถึงแนวโน้มการใช้จ่ายทั่วออสเตรเลียที่ลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ภาคธุรกิจจึงจะต้องปรับตัวด้วย

• ยอดขาดดุลการค้าเดือน ส.ค. ของญี่ปุ่นอยู่ที่ 7.541 แสนล้านเยน ขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากยอดการส่งออกไปยังยุโรปและจีนชะลอตัวลงอันเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้ สาธารณะในยูโรโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดส่งออกไปยังอิตาลีและอังกฤษที่ร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจก็ลดลงด้วย

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 47.8 แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงหดตัวจากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับการชะลอตัว ของเศรษฐกิจจีน

• ปากีสถานประกาศให้วันที่ 21 ก.ย.นี้ เป็นวันหยุดแห่งชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถแสดงความเคารพต่อพระศาสดามูฮัมหมัดแห่งศาสนา อิสลามได้อย่างเต็มที่ พร้อมเรียกร้องให้เข้าร่วมประท้วงแสดงพลังต่อต้านภาพยนตร์ดูหมิ่นอิสลามที่ สหรัฐสร้างขึ้นด้วย

• จีนเรียกร้องให้ญี่ปุ่นใช้วิธีการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหมู่ เกาะเตียวหยู โดยมองว่าปัญหาต่างๆ ควรจะได้รับการแก้ไขผ่านการสนทนาและเจรจาต่อรอง นอกจากนี้ ญี่ปุ่นควรจะยอมรับความต้องการของจีนอย่างจริงจัง

• ธนาคารกลางเกาหลี (BOK) รายงานว่า อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อยอดขายในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนกว่า 1,539 แห่งลดลงไปอยู่ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 5.7%ในปีก่อน ซึ่งเกิดจากความต้องการในประเทศอ่อนแอลงจากความกังวลในความไม่แน่นอนภายนอก เช่น วิกฤตการคลังในยุโรป และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก

• กบง.ปรับขึ้นอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันทุกชนิด 60 สตางค์/ลิตร แต่ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีภาระลดลงจากเดิมติดลบ 106 ล้านบาท/วัน เป็นติดลบ 61 ล้านบาท/วัน

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ที่ 5% โดยการส่งออกจะขยายตัวลดลงเหลือ 5% จากเดิม 7% จากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก

สำหรับปีหน้าคาดว่า เศรษฐกิจจะเติบโตได้ที่ 5% จากการส่งออกที่ขยายตัว 14% เพราะคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัว ทั้งนี้ ประเมินว่ามาตรการ QE3 จากสหรัฐจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น แต่เป็นการไหลเข้าระยะสั้น ทำให้ ธปท.ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้าเป็นพิเศษ

• โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ทั้งระบบในเดือน ส.ค.มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 63.9% (129,509 คัน ) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นแบ่งเป็นตลาดรถยนต์นั่ง 61,044 คัน และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 68,465 คัน

Equity Market


• SET Index ปิดที่ 1,282.68 จุด ลดลง 2.78 จุด หรือ 0.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,390.62 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,222.17 ล้านบาท ทั้งนี้ ทิศทางตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในช่วงขาลงแต่ดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหลังจากรับรู้ข่าว QE3 ไปแล้ว

• กสทช. มั่นใจว่าจะสามารถประมูล 3G ได้แน่นอนในวันที่ 16 ต.ค.นี้ โดยยืนยันว่าการประมูลถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ ราคาประมูลตั้งต้นจะเริ่มที่ 4,500 บาทต่อ 5 เมกะเฮิร์ต และผู้ประมูลแต่ละรายจะถือครองคลื่นความถี่ได้สูงสุด 15 เมกะเฮิร์ต เท่านั้น

• จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่กำลังหางานกว่า 144,000 คน ที่มีความถนัดด้านธุรกิจหรือวิศวกรรมในประเทศเศรษฐกิจใหญ่ 12 ประเทศทั่วโลก ในหัวข้อ “บริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในโลกประจำปี 2555” พบว่า กูเกิล ครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากกระแสของกูเกิลยังมาแรง สภาพการทำงานที่ดูผ่อนคลาย สร้างสรรค์ และเป็นสากล ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย รวมถึงโอกาสและสิทธิประโยชน์มากมายอย่างที่บริษัทอื่นเทียบไม่ได้ ส่วนอันดับ 2 คือ KPMG และอันดับ 3 คือ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล

Fixed Income Market


• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงในช่วงระหว่าง -0.04% ถึง 0.00% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 14 วัน วงเงินรวม 45,000 ล้านบาท

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติถือครองพันธบัตรญี่ปุ่นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 81.61 ล้านล้านเยน ณ สิ้นเดือนมิ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ที่ได้รับการพิจารณาว่าค่อนข้างปลอดภัยท่าม กลางวิกฤตหนี้ยุโรป โดยการถือครองของนักลงทุนต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 8.7% ของการถือครองทั้งหมด

• สเปนระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรได้รวม 4.759 พันล้านยูโร ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 859 ล้านยูโร และขายรุ่นอายุ 3 ปีได้ 3.9 พันล้าน และนับเป็นการประมูลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 เดือน

Guru Corner


• Peter Schiff “สิ่งที่เราต้องการจริงๆ คือพิมพ์เงินให้น้อยลง อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ออมเงินให้มากขึ้น ผลิตให้มากขึ้น และส่งออกให้มากขึ้น แต่สิ่งที่ FED ทำคือห้ามไม่ให้มันเกิด”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น