หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 28/9/55

General News
-----------------



• สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ รายงานว่า GDP ไตรมาส 2 ลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ -0.5% เล็กน้อย

• สำนักงานแรงงานของเยอรมนี เปิดเผยว่า จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันในเดือน ก.ย. โดยเพิ่มขึ้น 9,000 คน ...
แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลังยุคการรวมประเทศเยอรมนีตะวันออก-ตก ส่วนอัตราว่างงานทรงตัวที่ 6.8%

• สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ISTAT) ของอิตาลี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ 88.3 ในเดือน ก.ย. จาก 87.3 ในเดือน ส.ค. อันเป็นผลจากแนวโน้มการผลิตที่ดีขึ้นเล็กน้อย และสต็อกสินค้าที่ลดลง แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

• ยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีคลังกรีซ เผยว่า ผู้นำรัฐบาลผสมสามพรรคของกรีซบรรลุ "ข้อตกลงพื้นฐาน" ว่าด้วยมาตรการปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี             2556-2557       ซึ่งเป็นความพยายามหนึ่งในการแก้ไขวิกฤตหนี้ของประเทศ

• ก.พาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี) ทรุดตัวลง 13.2% ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปีครึ่งนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2552 และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 5.1% เนื่องจากกิจกรรมด้านการผลิตชะลอตัวลง แม้ตัวเลขการใช้จ่ายภาคเอกชนดีดตัวขึ้นก็ตาม

• ก.แรงงานสหรัฐ รายงานว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ย.ลดลง 26,000 รายมาอยู่ที่ 359,000 ราย ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 375,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากที่ค่อนข้างผันผวนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

• ก.พาณิชย์สหรัฐ ปรับลดประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ประจำไตรมาส 2 มาอยู่ที่ 1.3% จากการประมาณการครั้งก่อนที่ 1.7% เนื่องจากการบริโภคส่วนบุคคลและยอดส่งออกที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ แม้ว่า GDP สหรัฐจะขยายตัวติดต่อกัน 12 ไตรมาส แต่ GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2554

• Richard Russell ผู้เขียนเรื่อง Dow Theory Letters และมักมีมุมมองเป็นลบอย่างมากต่อตลาดหุ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์ล่าสุดต่อ King World News ว่า ......

“ถ้าสภาคองเกรสตกลงเรื่องแก้ปัญหา Fiscal Cliff กันไม่ทันภายในเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธ.ค.นี้ อเมริกาจะตกหน้าผาทางการคลัง (Fiscal Cliff) โดยภาษีจะพุ่งขึ้นไปอยู่ในอัตราสูงเท่าช่วงที่ Bill Clinton เป็นประธานาธิบดี และรัฐบาลจะต้องตัดงบประมาณด้านการป้องกันประเทศจำนวนมหาศาล รวมทั้งตัดโครงการของรัฐเป็นพันโครงการซึ่งรวมถึงสวัสดิการสุขภาพด้วย โดย David Kelly หัวหน้าทีมกลยุทธ์ของ JP Morgan Funds ระบุว่า หากเป็นเช่นนั้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ Deep Recession

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสมาชิกสภาคองเกรสไม่ได้เป็น คนเสียสติ จึงคาดว่า Congress จะตกลงกันได้ทันเส้นตายนั้น ซึ่งทำให้เชื่อว่าเมื่อ Congress ตกลงกันได้ ตลาดหุ้นสหรัฐที่ซึมซับข่าวร้ายเรื่อง Fiscal Cliff ไปแล้วนั้น จะพุ่งขึ้นรับข่าวดี ส่วนตลาดพันธบัตรจะกระทบในทางตรงข้าม และทำให้คนที่ขายพันธบัตรสหรัฐล่วงหน้าไว้จะเจ็บตัว”

• ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงินสุทธิ 3.65 แสนล้านหยวน (5.792 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดเงินในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการอัดฉีดเงินรายสัปดาห์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการเกิดภาวะสภาพคล่องตึงตัวในระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์ ทั้งจากเกณฑ์การกันสำรองในช่วงสิ้นไตรมาส และเพื่อสำรองเงินสดสำหรับความต้องการถอนเงินในช่วงการเฉลิมฉลองวันชาติจีนในสัปดาห์หน้า

• สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ข องจีนในเดือน ส.ค. หดตัวลง 6.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 3.812 แสนล้านหยวน ทำสถิติหดตัวลงติดต่อกัน 5 เดือน เนื่องจากภาวะชะลอตัวของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ผลกำไรในช่วง 8 เดือนแรกของปีหดตัวลง 3.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 3.06 ล้านล้านหยวน

• Bangkok Post รายงานว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเผชิญแรงกดดัน 3 เรื่องใหญ่ในขณะนี้ ได้แก่ 1. การดำรงตำแหน่งของรองนายกฯ และ รมต.มหาดไทย 2. การที่ ธปท.จะไม่แทรกแซงค่าเงินบาทยกเว้นกรณีจำเป็น และ 3. การที่ รมต.พาณิชย์ ยืนยันให้เดินหน้าเรื่องโครงการจำนำข้าว

Equity Market
------------------



• SET Index ปิดที่ 1,286.11 จุด เพิ่มขึ้น 11.61 จุด หรือ 0.91% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39,562.89 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 453.27 ล้านบาท โดยดัชนีปรับขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงินสุทธิ 3.65 แสนล้านหยวน (5.792 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดเงิน

• รอยเตอร์ เปิดเผยผลสำรวจผู้จัดการกองทุนญี่ปุ่น 10 ราย บ่งชี้ว่า ผู้จัดการกองทุนของญี่ปุ่นได้เพิ่มการลงทุนในพันธบัตรสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ลดการลงทุนในหุ้นลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 14 ปี


Fixed Income Market
-------------------------
-


• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในช่วง -0.01% ถึง 0.01%

Guru Corner
---------------



•Marc Faber

ตราบใดที่คนอย่าง Ben Bernanke ยังทำงานที่ FED และสหรัฐยังขาดดุลการคลังจำนวนมากแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน ผมก็จะไม่ขายทองคำออกจากพอร์ตลงทุนเป็นอันขาด

•Jim Rogers


ผมมีเงินสกุลหยวน และทุกครั้งที่ทำได้ผมจะซื้อเงินหยวนเพิ่มไปเรื่อยๆ เพราะผมคาดว่าเงินหยวนจะทวีค่าเป็น 2-3 เท่า ภายใน 1-2 ทศวรรษ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น