หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย 1/4/57

หุ้นไทยปิดบวก 7.36 จุด อยู่ที่ 1,376.26 จุด มูลค่าซื้อขายเบาบาง การเมืองยังกดดัน คาดพรุ่งนี้แกว่งแคบ กรอบ 1,360-1,385 จุด ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ เปิดตลาดดัชนีปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 4 จุด และปรับขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดที่ 1,378.39 จุด โดยได้รับแรงหนุนจาการทำ Window Dressing และแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ โดยระหว่างการซื้อขายมีแรงขายทำกำไรออกมาเล็กน้อยฉุดดัชนีให้ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,371.35 จุด และปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,376.26 จุด เพิ่มขึ้น 7.36 จุด(+0.54%) มูลค่าการซื้อขาย 22,540.24 ล้านบาท
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในแดนบวก คาดว่าจะรับแรงหนุนจากการทำ Window Dressing และแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติได้กลับมาค่อนข้างมากเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน แต่วันนี้จะเห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดไม่มาก ทำให้ upside มีความเปราะบาง เมื่อตลาดฯปรับตัวขึ้นไปก็จะมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา
เนื่องจากยังมีปัจจัยการเมืองที่ตลาดฯยังให้น้ำหนักอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีความของนายกรัฐมนตรี, การเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.)
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดยุโรปที่เปิดเทรดในช่วงบ่ายต่างก็อยู่ในแดนบวกเช่นกัน ภายหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังดีอยู่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(1 เม.ย.)น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ช่วงนี้ถ้าตลาดฯยังไม่มีอะไรผลักดัน การปรับตัวขึ้นไปก็จะจำกัด เนื่องจากนักลงทุนก็ยังระมัดระวังเกี่ยวกับการเมือง พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด แนวต้าน 1,380-1,385 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,386.35 ล้านบาท ปิดที่ 178.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,126.76 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,064.40 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 968.08 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 787.41 ล้านบาท ปิดที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
ตลาดของเราปรับขึ้นด้วยแรง window dressing ตามคาด หวังว่าตัวไหนที่ทุกท่านกำไร จะมีการ take profit ออกมาบ้างนะครับ เรามาคิดกันต่อว่าจะเกิดอะไร ช่วงนี้ที่ดูๆๆมาต่างชาติเริ่มซื้อต่อเนื่องแถมเปิด long future เค้ายังมองบ้านเราโอเคอยู่ แต่เชื่อว่าตลาดคงมีสลับตัวเล่น เนื่องจาก GDP ของเราไม่ได้ดีมากนัก ซึ่งใครๆก้รู้นะครับ ทำให้การเติบโตของมันจะขึ้นลงเป็นอุตสาหกรรมไปนะครับ เราจึงมอง take profit เก็บเงินสดไว้ลงทุนรอบใหม่ เพราะหลังสงกรานต์คงเริ่มเห็นเค้าโครงของหุ้นน่าลงทุน แต่ถ้าคุณยังมีหุ้นที่ไม่รู้ว่าจะดีหรือไม่ดีมันก็ไม่มีประดยชน์อยู่ดีครับ สู้เก็บเงินสดไว้ลงทุนดีกว่าครับ โดยมีเค้ารางมองดูหุ้นชุดนี้ก่อน TTA AEONTS BTS BLAND AOT KSL จะคอย valuation ให้ว่าโออะเป่านะครับ

รูปภาพด้านบนที่แบ่งออกเป็น 2 กราฟนะครับ กราฟบนเป็นการเคลื่อนไหว ของ SET INDEX ตั้งแต่ ต้นปี 2011 จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีจุดต่ำสุดที่ 855 จุดในเชื่องต้นเดือนตุลา 2011 และมีจุดสูงสุดที่ระดับ 1643.43 จุด ในช่วงเดือน 5 ปี 2013 และมีค่าเฉลี่ยที่ 1238 จุด และกราฟด้านล่าง เป็นกราฟ percentage ของนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นบ้านเราเทียบกับ value รวมของตลาดในแต่ละวัน โดยมีค่าเฉลี่ยเรา 24% และมีจุดสุงสุดที่ราว 56% ในช่วงปลายเดือน 11 ในปี 2012 และมีจุดต่ำสุดเพียง 5% เราสังเกตได้ว่าในช่วงที่ต่างชาติมีการซื้อที่มากกว่าค่าเฉลี่ยติดต่อกันนาน หลังจากกนั้นหุ้นก้จะขึ้น ในวงเขียวๆๆๆๆๆ การซื้อแปลว่าเอาเฉพาะวอลลุ่มที่ซื้อนะครับ ไม่ใช่ซื้อสุทธิ เพราะในแต่ละวันนักลงทุนต่างชาติทั้งซื้อและขายอยู่แล้ว แค่ปริมาณไม่เท่ากันเท่านั้น จังไม่มีนัยอะไร และถ้ามีการซื้อหุ้นในสัดส่วนที่น้อยๆๆๆๆมากถึงแม้จะออกมาเป็นการซื้อสุทธิในแต่ละวันอีกสักพักหุ้นก็จะลงนะ แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี 2014 นักลงทุนต่างชาติมีการเข้าซื้อที่ส่วนใหญ่เกินค่าเฉลียนะครับ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยนึงที่ส่งผลให้หุ้นขึ้นครับบ เราจะคอยตรวจสอบให้เรื่อยๆๆนะครับ ซึ่งช่วงนี้ก็มองว่าเข้ายังมีเงินอยู่ในบ้านเราอยู่ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น