หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สยามรัฐ 22/11/55

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

สั่งเช็กข้อมูลคนพิการตรวจสอบ92องค์กรรับโควตากันซ้ำซ้อน
บอร์ดสลากสั่งสำนักงานสลากฯสอบข้อมูลคนพิการที่ได้รับโควตาจากทุกองค์กร 92 แห่ง กันปัญหาซ้ำซ้อน พร้อมวางแผนจัดสรรโควตาใหม่

เลิกชดเชยพลังงานหวั่นอุ้มคนต่างชาติแสวงหาแหล่งใหม่

แนะรัฐเลิกอุ้มพลังงานหลังเปิดเออีซีหวั่นอุ้มทั้งอาเซียน "พงษ์ศักดิ์"ดันไทยฮับผลิตไฟส่งออก

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์มติชน


ขยับเป้าค้าไทย-จีน2แสนล้านดอลล์
'ยิ่งลักษณ์'เล็งเรียกประชุมวางแผนโตอีกเท่าตัวทั้งการลงทุน-ท่องเที่ยว
'พินิจ'เผยนายกฯยิ่งลักษณ์เตรียมเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องไทย-จีน ดันความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งการค้า การลงทุน ท่องเที่ยว โตเพิ่มเท่าตัว มูลค่าสูง 2 แสนล้านดอลลาร์ ใน 1-2 ปี 'พยุงศักดิ์'แจง 140 บริษัทจีนสนใจลงทุนไทย แนะตั้งสมาคมธุรกิจเพิ่มความสะดวกสู่เป้าหมายเพิ่มมูลค่าลงทุน 15% ต่อปี

'พงษ์ศักดิ์'ดันไทยฮับผลิตไฟฟ้า

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานสัมมนาของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เรื่องสแกนความพร้อมไฟฟ้าไทยรับเออีซีว่า กระทรวงพลังงานได้สั่งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) เร่งพัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยี เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตไฟฟ้าส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ จะสนับสนุนนักลงทุนไปตั้งโรงไฟฟ้าในพื้นที่ที่มีศักยภาพในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อทำการผลิตไฟฟ้าส่งผ่านสายส่ง (อาเซียนกริด) มาไทยหรือขายต่างประเทศ

เร่งช่วยเอสเอ็มอีกระอักค่าแรง300

'วิฑูรย์'ถกบีโอไอ-กรมโรงงานฯ หนุนผลิตเครื่องจักรในปท.ลดทุน
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในงาน "ก้าวไกลสู่สากล:ด้วยมาตรฐานสินค้าและบริการ" ส่วนหนึ่งของการจัดงานครบรอบ 80 ปี หอการค้าไทย ที่เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนว่า หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 กระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าร่วมในคณะทำงานติดตามผลกระทบดังกล่าวที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แล้วยังทำงานคู่ขนานด้วยการพิจารณานโยบายใหม่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ของไทยในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักร หันมาผลิตเครื่องจักรที่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอส เอ็มอี) มากขึ้นในราคาที่ถูกกว่าเครื่องจักรที่นำเข้าจากต่างประเทศ

แนะรัฐลด'ประชานิยม'คุม'ฟองสบู่'

นายกิตติศักดิ์ พรหมรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) กล่าวในงานเสวนาเรื่อง "ความมั่งคั่งของประเทศไทย ท่ามกลางภัยจากเศรษฐกิจโลกปี 2013" จัดโดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนว่า จากผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์เรื่อง "การคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2013" นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าในปี 2556 เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.3% เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4.6% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 3.4% จึงเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบันอยู่ในอัตรา 2.75% ภายในสิ้นปี 2556 อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.50% และการส่งออกจะขยายตัว 6.8%

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ห่วงยาเสพติด-ของแพงคนกรุงชี้มาตรการรัฐเหลว
น.ส.วิริยา วรกิตติคุณ นายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการวิจัยเพื่อสำรวจทัศนคติของคนกรุงเทพฯ ต่อภาพรวมเศรษฐกิจและภาพรวมประเทศไทยในเดือน พ.ย. 55 พบว่า สิ่งที่กังวลมากที่สุด 10 อันดับแรกคือ ปัญหายาเสพติด มีสัดส่วนมากสุดถึง 60% แม้รัฐบาลจะประกาศแก้ปัญหายาเสพติด แต่พบว่า เป็นการแก้ปัญหาเชิงรับไม่ได้แก้ปัญหาเชิงรุก และไม่ได้แก้ปัญหาอย่างจริงจัง รองลงมาเป็นกังวลเรื่องราคาสินค้า พลังงานแพง, เศรษฐกิจไทยที่ตกต่ำ, ปัญหาจราจร มาจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลที่ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดในกทม. อย่างมาก เพราะค่ายรถยนต์เริ่มผลิตออกมาสู่ตลาดเพิ่มขึ้น, กังวลเรื่องการมีเงินไม่พอเลี้ยงชีพ, การเอาเปรียบผู้บริโภค, ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, ความเสื่อมถอยด้านศีลธรรมและจริยธรรมในสังคม, ปัญหาอาชญากรรม และการกระทำผิดกฎหมาย และกังวลปัญหา การโกงกินของข้าราชการ และปัญหาคอร์รัปชั่น

เคเอฟซีรับคนพิการทำงาน

นายโชคดี วิศาลสิงห์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ยัมเรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ "เคเอฟซี เราได้ยินทุกความฝัน : ร้านเคเอฟซี ที่ให้บริการโดยคนหูหนวก" เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการทางการได้ยินและสื่อความหมายจากทั่วประเทศเข้ามาทำงานในร้านเคเอฟซี เริ่มจากการนำผู้พิการทางหูจำนวน 32 คน เข้ามาทำงานในร้านเคเอฟซี สาขาไทม์สแควร์ เป็นแห่งแรกในไทย และเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ต่อจาก สิงคโปร์ และอินเดีย เพื่อส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพ

จัดอันดับดองเครดิตไทย การเมือง-นโยบายศก.ถ่วง คลังชี้หนี้ไม่เกิน50%จีดีพี

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้สถาบันจัดอันดับอย่างมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส, สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังไม่ยอมปรับเพิ่มเครดิตให้กับประเทศไทย เพราะไม่มั่นใจประเด็น ความชัดเจนด้านนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของไทย เบื้องต้นกระทรวงการคลังได้ชี้แจงว่า ประเทศไทยจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยการออกกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ลงทุนภายใน 7 ปี ทั้งระบบขนส่งและระบบน้ำครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ได้กำหนดให้หนี้สาธารณะอยู่ในระดับไม่เกิน 50% ของจีดีพี เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ

พาณิชย์โวเร่งปั๊มยอดจีทูจีสิ้นปีส่งออกได้1.8ล้านตัน

นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะโฆษกข้าวประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขายข้าวจีทูจี ปริมาณ 7.32 ล้านตันว่า ล่าสุด รัฐบาลไทยส่งมอบให้รัฐบาลผู้ซื้อแล้ว 1.7 ล้านตัน สามารถส่งเงินคืนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้แล้วประมาณ 50,000 ล้านบาท คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้ จะสามารถส่งมอบได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.8 ล้านตัน และมีเงินคืน ธ.ก.ส.ประมาณ 70,000 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้

นิด้าโพลชี้รถคันแรกเพิ่มปัญหาการจราจร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "นโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรก" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-17 พ.ย.55 จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,248 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกภูมิภาค ทุกระดับการศึกษาและกลุ่มอาชีพ กรณีนโยบายการคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล จากการสำรวจ พบว่า ประชาชน 71.39 % เห็นด้วยกับนโยบายนี้เพราะเป็นการคืนเงินภาษีให้กับประชาชน ไม่ต้องซื้อรถในราคาแพง และเป็นการจูงใจในการซื้อรถยนต์ ขณะที่ 24.44% ไม่เห็นด้วย เพราะทำให้การจราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างหนี้ให้กับประชาชน ต้องนำเงินมาชดเชยให้กับค่าภาษี

อลิอันซ์ฯมั่นใจเบี้ยทะลุเป้า
นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเบี้ยประกันรับปีแรกในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,260 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท ผลมาจากช่องทางการขายตรงที่เติบโตถึง 9% และมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 34-35% ซึ่งจะทำให้บริษัทเป็นผู้นำช่องทางการขายตรง สำหรับการเติบโตของบริษัทมากกว่าในตลาดที่ปรับตัวลดลงประมาณ 7% ส่วนเบี้ยรับรวมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.ก.ย.) อยู่ที่ 700-800 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น