หน้าเว็บ

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สยามรัฐ 7/11/55

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

ชาวนาวิตกซื้อประกันภัยพุ่งรัฐเพิ่มคุ้มครอง/กบอ.เรียกเอกชนเสนอแผนลงทุน
เกษตรกรหาทางออกป้องกันภัย แห่ทำประกันภัยข้าวมากขึ้น ขณะที่รัฐขยายความคุ้มครองภัยศัตรูพืชและโรคระบาดด้าน กบอ. เรียกเอกชนเสนอแผนลงทุนสัปดาห์หน้า

อุตฯคุยสอท.ดึงเอสเอ็มอีปรับแนวคิดเข้าร่วมโอป๋อย
กระทรวงอุตสาหกรรมคุย ส.อ.ท.ช่วยคุยเอสเอ็มอีปรับแนวคิดเข้าร่วมโอป๋อย เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน

'โอฬาร'ชงแผนปั๊มค้าชายแดน2ล้านล.
คณะทำงานส่งเสริมสร้างฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดนเตรียมเสนอแผนนำร่องเพิ่มมูลค่าการส่งออกเสนอ ครม. รับทราบ ตั้งเป้ามีมูลค่า 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2558


สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ไทยลุ้น'โอบามา'ซิวผู้นำสหรัฐศก.คึกหวั่น'รอมนีย์'เข้าวินทุบการค้า-อัตราแลกเปลี่ยน
นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ในวันที่ 6 พ.ย.ตามเวลาในสหรัฐ ที่มีผู้สมัครทั้ง 2 รายคือ นายบารัก โอบามา และนายมิตต์ รอมนีย์ ว่าธปท.กำลังติดตามดูผลการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้หลายฝ่ายเริ่มแสดงความเป็นห่วงว่าหากนาย รอมนีย์ชนะการเลือกตั้งอาจมีผลต่อนโยบายด้านต่างๆ ของสหรัฐได้ ซึ่งแน่นอนว่าตลาดเงินคงได้รับผลกระทบด้วยหากนโยบายเปลี่ยนไปจากเดิม

กทค.เคาะค่าบริการ3จีไม่เกิน78สตางค์/นาที
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการกทค. ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบออกหลักเกณฑ์กำหนดค่าบริการขั้นสูงควบคู่ไปกับการให้ใบอนุญาต 3 จี ย่านความถี่ 2.1 กิกะเฮิร์ตซ์ โดยห้ามคิดค่าบริการด้านเสียงเกินนาทีละ 78 สตางค์ และค่าบริการขั้นสูงดังกล่าวจะต้องต่ำกว่าอัตราค่าบริการเดิม 15-20% ซึ่งคำนวณจากฐานเดิมที่บังคับใช้กับผู้ให้บริการในระบบเดิม ไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์ และจะบังคับใช้กับบริการเสียงก่อนที่จะขยายไปยังบริการด้านข้อมูล (ดาต้า) โดยจะให้เอกชนทั้ง 3 ราย คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค, ดีแทค เนทเวอร์ค และเรียล ฟิวเจอร์ ส่งต้นทุนที่จะเกิดขึ้นกับการลงทุนติดตั้งโครงข่าย 3 จีทั้งหมดในวันที่ 23 พ.ย. และกทค.จะประกาศค่าบริการขั้นสูงได้ภายในกลางเดือนธ.ค.นี้

ศึกษายกชั้น'อู่ตะเภา'รับโลว์คอสต์
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ว่า สภาที่ปรึกษาฯ เสนอแนะให้รัฐบาลนำนโยบายการใช้ท่าอากาศยานหลายแห่งมาใช้แทนระบบท่าอากาศยานเดี่ยว โดยให้นำท่าอากาศยานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้ง ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานอู่ตะเภามาใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น รวมถึงพิจารณาแนวทางการใช้ท่าอากาศยานอื่นๆ ภายในประเทศมาบูรณาการ เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดอย่างเต็มศักยภาพด้วย

พณ.มุบมิบชงขายข้าวจีน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ได้มีมติเห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2556-58 โดยกำหนดปริมาณข้าวที่ขายให้กับรัฐบาลจีนในแต่ละปีไม่เกิน 5 ล้านตัน จากเดิมปีละไม่เกิน 3 แสนตัน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเป็นวาระจร ซึ่งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนเพราะรัฐบาลจีนจะเดินทางมาไทยช่วงต้นเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงนี้ หากต้องรอเสนอครม.พิจารณาสัปดาห์หน้าจะล่าช้าเกินไป จึงต้องเสนอครม.เห็นชอบในสัปดาห์นี้ แม้ว่านายกรัฐมนตรีติดภารกิจประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ที่สปป.ลาว ก็ตาม และนาย บุญทรงยืนยันว่าการขายข้าวให้รัฐบาลจีนครั้งนี้จะไม่มีภาคเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะไทยต้องการระบายข้าวขณะที่รัฐบาลจีนต้องการซื้อข้าวไทยเพราะมีคุณภาพดี ทั้งนี้รัฐมนตรีได้กำชับครม.ทุกคน ห้ามเปิดเผยในรายละเอียดหรือแถลงข่าวแต่อย่างใด

'เพ้ง'ตรึงก๊าซหุงต้มของขวัญปีใหม่ขนส่งใช้เอ็นจีวีเตรียมจ่ายราคาเต็มอุ้มแท็กซี่
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เข้ามาจัดการปัญหาโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) โดยไม่ให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยต้องได้รับผลกระทบจากการปรับราคาแอลพีจี ขณะเดียวกันในส่วนของภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันติดลบอยู่ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาทก็ต้องมีแนวทางฟื้นฟู ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นงานยาก เป็นเรื่องที่สวนทางกัน แต่ต้องดำเนินการตามคำสั่ง และได้ให้ปลัดกระทรวงพลังงานไปศึกษาแนวทางดังกล่าวแล้ว

บ้านหลังแรกวืดเป้า-ต่ออายุอีก6เดือน
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 พ.ย.เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการบ้านหลังแรกของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 3 ปี ออกไปอีก 6 เดือน จากเดิมที่สิ้นสุดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงินวันที่ 30 ก.ย.2555 ขยายเป็นวันที่ 29 มี.ค.2556 และขยายเวลาทำนิติกรรมกับธอส. จากเดิมต้องดำเนินการภายในวันที่ 31 ธ.ค.2555 เป็น 28 มิ.ย.2556 เนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี 2554 เกิดปัญหาอุทกภัยทำให้ลูกค้าของธอส.ไม่สามารถขอสินเชื่อของโครงการได้ทันตามกำหนดระยะเวลาที่ตั้งไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น