หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากบัวหลวง

General News

• กรีซเปิดเผยแผนงบประมาณประจำปี 2556 จากการประเมินพบว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จะเพิ่มขึ้นจากการประเมินครั้งก่อน 179.3% เป็น 189.1% และการขาดดุลงบประมาณจะเพิ่มขึ้นจาก 4.2% เป็น 5.2% ต่อ GDP ขณะที่เศรษฐกิจในปีนี้จะหดตัวลง 4.5% จากการประเมินครั้งก่อนที่คาดว่า จะหดตัว 3.8% ทั้งนี้ กรีซต้องนำแผนงบประมาณดังกล่าวเสนอต่อ Troika เพื่อขออนุมัติและรับความช่วยเหลือทางการเงินต่อไป ซึ่ง IMF เคยตั้งเป้าหมายให้กรีซลดระดับหนี้สาธารณะลงมาอยู่ที่ 120% ต่อ GDP ภายในปี 2563

• อัตราการว่างงานของยูโรโซนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 11.6% จาก 11.5% ในเดือนก่อน ทำสถิติเป็นระดับสูงสุดใหม่ โดยสเปนยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการว่างงานสูงสุดที่ 25.8% รองลงมาคือ กรีซที่ 25.1% ซึ่งผู้ว่างงานกว่า 50% ของทั้งสองประเทศเป็นประชากรวัยหนุ่มสาว

• รมว.คลังสเปน เปิดเผยว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีการขายสินค้าปรับเพิ่มขึ้น 11.9% ในเดือนก.ย. จาก -10% ในเดือนก่อน จากการปรับขึ้นภาษีการขายสินค้าจาก 18% เป็น 21% ในช่วงต้นเดือนก.ย. ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลให้การขาดดุลงบประมาณใน 9 เดือนแรกปรับลดลงเหลือ 4.39% ต่อ GDP จาก 4.77%

• ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 1.5% จากเดือนก่อน แต่ลดลง 3.1% จากปีก่อน เนื่องจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในเยอรมันอย่างต่อเนื่องจนทำให้อัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อยอดค้าปลีกที่อ่อนแอลง

• OECD ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศสมาชิก 34 ประเทศปรับเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนก.ย. ขณะที่ในเดือนก่อนหน้าปรับเพิ่มขึ้น 2.1% สาเหตุจากราคาพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น 5.1% เทียบกับ 3.5% ในเดือนก่อน ส่วนราคาอาหารปรับตัวขึ้นในระดับลดลงเล็กน้อยคือ 2.1% จากการเพิ่มขึ้น 2.2%ในเดือนก่อน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซนยังทรงตัวที่ระดับ 2.6%

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนต.ค.ปรับลดลงแตะระดับ -30 จุด จาก -28 จุดในเดือนก่อน เป็นผลมาจากความกังวลของผู้บริโภคต่อฐานะการเงินส่วนบุคคลใน 12 เดือนข้างหน้าที่ปรับลดลงสู่ระดับ -13 จุด

• พายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ได้อ่อนกำลังลงสู่ระดับต่ำกว่าเฮอร์ริเคนแล้ว โดยนักวิเคราะห์คาดว่า พายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐประมาณ 0.1-0.2% ของ GDP เนื่องจากการลดค่าใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในช่วงที่ผ่านมา และอาจจะส่งผลต่อเนื่องถึงยอดค้าปลีกในช่วงเทศกาลที่กำลังจะมาถึง

• รมว.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้หยุดชะงักลงจากการส่งออก และการผลิตที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจต่างประเทศที่ชะลอตัวจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ในเดือนก.ย.ขยายตัว 0.8% จากเดือนก่อน เป็นผลมาจากการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นหลังจากการประท้วงของแรงงานในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ได้สิ้นสุดลง

• ธปท. รายงานตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือนก.ย. พบว่า ปัจจัยภายในประเทศยังคงสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย จากดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่ปรับเพิ่มขึ้น 4.7% จาก 4.1% ในเดือนก่อน และดัชนีการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัว 12% ขณะที่การส่งออกหดตัวลง 0.1% โดยเป็นการหดตัวในเกือบทุกหมวดสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร ทั้งนี้ ธปท. คาดว่า GDP ในไตรมาส 3 จะขยายตัวได้ที่ 3.3% และยังจะขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาส 4 จากปัจจัยการใช้จ่ายในประเทศ และฐานที่ต่ำในปีก่อน

Equity Market


• SET Index ปิดที่ 1,298.87 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด หรือ 0.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24,633 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 313 ล้านบาท โดยดัชนี SET ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาคหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นออกมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติม และดัชนีราคาบ้านของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์

Fixed Income Market


• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงในทุกรุ่นเปลี่ยนแปลงช่วงระหว่าง -0.03% ถึง 0.00% โดยเป็นการปรับลดลงแรงในรุ่นอายุ 15 ปีตามผลการประมูลที่ออกมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น