หน้าเว็บ

วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 31/10/55

General News


• นายกรัฐมนตรี แอนโทนิส แซมมาราส ของกรีซ เปิดเผยว่า กรีซสรุปข้อตกลงกับเจ้าหนี้ต่างประเทศเรื่องมาตรการเสริมของมาตรการรัดเข็มขัดและมาตรการปฏิรูปได้แล้ว ทำให้จะได้รับเงินช่วยเหลืองวดสำคัญในเดือนนี้ ซึ่งถ้าข้อตกลงและงบประมาณได้รับการรับรองจะทำให้กรีซยังคงเป็นสมาชิกของยูโรโซนได้ต่อไป

• ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจยูโรโซนเดือน ต.ค.อยู่ที่ 84.5 จุด ลดลงจาก 85.0 จุดในเดือนก่อน และต่ำสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 52 โดยธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมและภาคก่อสร้างยังคงอ่อนแอ และเป็น 8 เดือนติดต่อกันที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ -25.7 จุด ฟื้นตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อน แต่ยังต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี

• GDP ไตรมาส 3 ของสเปนหดตัวลง 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และหดตัวลง 1.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็นการหดตัว 5 ไตรมาสติดต่อกัน ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อน ทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.5% เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงและยาสูงขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของสเปนยังคงยืนยันว่าจะไม่ขอความช่วยเหลือทางการ เงินจาก EU แม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะชะลอตัวหนัก

• อัตราว่างงานของเยอรมนีทรงตัวที่ 6.9% ในเดือน ต.ค. โดยมีคนว่างงานเพิ่มขึ้น 20,000 ราย สู่ 2.94 ล้านราย เพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากวิกฤตหนี้ในภูมิภาคได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการลงทุนของบริษัทเอกชน

• พายุเฮอร์ริเคน Sandy ทำให้หลายล้านคนในแถบชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐเผชิญกับอุทกภัย จนเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ทำให้กว่า 8 ล้านคนในหลายมลรัฐไม่มีไฟฟ้าใช้ น้ำท่วมระบบรถไฟใต้ดินนิวยอร์กซิตี้และถนนหลายสายในแมนฮัตตัน ทำให้ ประธานาธิบดีโอบามา ประกาศเขตภัยพิบัติร้ายแรง ซึ่งทำให้รัฐบาลนำกองทุนออกมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูความเสียหายได้

ทั้งนี้ บริษัทประเมินสถานการณ์ภัยพิบัติ อิเกแคต คาดว่า Sandy จะส่งผลต่อประชาชนกว่า 60 ล้านคนในอเมริกา หรือ 1 ใน 5 ของประชากร และสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์

• ก.คลัง สหรัฐ คาดว่าจะกู้เงิน 2.88 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปีนี้ และมีแผนจะออกตราสารหนี้ 3.42 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ปีหน้า โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีงบประมาณขาดดุลสูงกว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลง 2.07 แสนล้านดอลลาร์จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เป็นปีที่ 4 ที่มียอดงบประมาณขาดดุลติดต่อกันเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์

• S&P/Case-Shiller รายงานว่า ดัชนีราคาบ้านสหรัฐในเดือน ส.ค.ขยายตัว 2.0% จากปีก่อน เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 53 อันเป็นสัญญาณที่ดีต่อเนื่องสำหรับธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์สหรัฐซึ่งจะช่วยผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ดีขึ้น

• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP สำหรับปีงบประมาณ 55 และ 6 มาอยาที่ 1.5% และ 1.6% ลดลงเดิมที่คาดว่าจะเป็น 2.2% และ 1.7% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมด้วยการขยายขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ของ BOJเพิ่มขึ้นอีก 11 ล้านล้านเยนเป็น 91 ล้านล้านเยน โดยผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า เศรษฐกิจต่างประเทศที่ชะลอตัวมากขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นที่ย่ำแย่ลงเป็นเหตุหลักที่ทำให้ผ่อนคลายนโยบายการเงินติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อย

ทั้งนี้ รัฐบาลและ BOJ ยังยืนยันว่ามีเป้าหมายร่วมกันในการแก้ไขปัญหาเงินฝืดที่ยืดเยื้ออย่างจริงจังด้วย

• ก.เศรษฐกิจของญี่ปุ่น รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.ปรับตัวลง 4.1% จากเดือน ส.ค. ซึ่งปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. 54 เนื่องจากยอดผลิตของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ลดลงมากหลังจากสิ้นสุดโครงการให้เงินอุดหนุนของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการซื้อรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งความต้องการรถยนต์ในต่างประเทศยังคงซบเซา และยังคาดว่า ผลผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นจะลดลงอีก 1.5% ในเดือน ต.ค. และจะฟื้นตัวขึ้น 1.6% ในเดือน พ.ย.

• พม่าตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกข้าวจาก 1.5 ล้านตัน/ปี เป็น 3 ล้านตัน/ปีในปี 2560 ซึ่งจะทำให้ตลาดข้าวมีปริมาณอุปทานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากผู้ส่งออกรายใหม่ เช่น บราซิล รัสเซีย และอิยิปต์

นอกจากนี้ พม่ายังมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณผลผลิตข้าวให้ได้ 4 ตันต่อเอเคอร์ในปี 2560 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.25 ตันต่อเอเคอร์

• ผู้ว่า ธปท.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณผิดปกติของเงินทุนไหลเข้า-ออกของไทย หลังจากเกิดสถานการณ์พายุเฮอริเคนถล่มสหรัฐ และการโจมตีค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งยังไม่ได้เกิดผลกระทบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทของไทยในระยะสั้น

แต่ยังต้องติดตามว่า พายุเฮอริเคน Sandy จะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐเพียงใด เพราะจะทำให้เกิดการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งการลงทุนและการบริโภคเพื่อชดเชยความเสียหาย

ส่วนการโจมตีค่าเงินฮ่องกงนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแรก เนื่องจากเศรษฐกิจฮ่องกงนั้นผูกกับเศรษฐกิจของจีน แต่ค่าเงินกลับไปผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาทางการฮ่องกงก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ดี

• ธนาคารกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีหน้ามีแนวโน้มขยายตัวได้ 5% และตั้งเป้าหมายขยายยอดสินเชื่อในปีหน้า 9-10% โดยจะมาจากสินเชื่อในทุกกลุ่ม ตั้งแต่รายย่อยจนถึงรายใหญ่ ทั้งนี้ ตลาดสินเชื่อภาคครัวเรือนก็ยังเป็นปกติดี ไม่มีสัญญาณที่น่ากังวล

Equity Market


• SET Index ปิดที่ 1,294.43 จุด เพิ่มขึ้น 14.86 จุด หรือ 1.16% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23,059 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,191 ล้านบาท สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นเพื่อนบ้านที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ในขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากบริษัทจดทะเบียนมีผลประกอบการที่ดีกว่าคาด

การปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้นแม้จะยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนตลาด แต่ก็ไม่มีปัจจัยลบเช่นกัน โดยหุ้นที่มีผลบวกต่อตลาดมากที่สุดคือ PTTEP ซึ่งผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนขายหุ้นเพิ่มทุนไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

Fixed Income Market


• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงในทุกรุ่น โดยเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.05% ถึง 0.00% และผลตอบแทนของรุ่นอายุระหว่าง 1-10 ปีมีการปรับลดลงมากกว่ารุ่นอื่น สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 15 ปีและอายุ 50 ปี มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น