หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 11/10/55

General News
-----------------



• สำนักงานสถิติ ELSTAT ของกรีซ รายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค.ปรับขึ้น 2.5 % เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยปรับขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2008 อันเป็นผลจากยอดส่งออกเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นสัดส่วนเพียง 15 % ของเศรษฐกิจกรีซ ดังนั้น เพียงลำพังภาคอุตสาหกรรมจึงไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจกรีซฟื้นตัวขึ้นได้อย่าง ยั่งยืน

• นายกรัฐมนตรี มาริโอ มอนติ ของอิตาลี ประกาศจะลดภาษีเงินได้ในปีหน้า ดังนี้

- ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 ยูโรต่อปี ลดจาก 23% เหลือ 22%
- ผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 15,001-28,000 ยูโรต่อปี ลดจาก 27% เหลือ 26%

การลดภาษีนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีรายได้น้อย ส่วนผู้มีรายได้สูงกว่าจะยังคงเดิม นอกจากนี้ จะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 1% ในเดือน ก.ค. 2556 จากเดิมที่วางแผนว่าจะขึ้น 2%

• David Mundell, Scotland Office Minister ให้สัมภาษณ์ผ่าน Sky News วานนี้ว่า อังกฤษยินยอมให้รัฐสภา Scotland ลงมติตัดสินใจว่าจะคงอยู่หรือแยกออกไปจากสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ซึ่งคาดว่าการตัดสินใจนี้จะเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงในปี 2014

• ก.พาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.5% ตามคาด ไปอยู่ที่ 4.875 แสนล้านดอลลาร์ในเดือน ส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน ก.ค.

ทั้งนี้ สต็อกสินค้าเป็นส่วนสำคัญที่รัฐบาลใช้คำนวณ GDP และใช้บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจได้ว่าอ่อนแอหรือแข็ง แกร่ง

• Businessinsider.com รายงานข้อมูลที่บ่งชี้ว่า คนในอเมริกามีมุมมองต่อเศรษฐกิจในสหัฐที่แตกเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน เพราะในขณะที่ผู้บริโภคมีมุมมองในแง่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ภาคธุรกิจกลับมองในแง่ลบลงไปทุกที

• สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ราคาสินค้าทุนของจีนในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.15% จากเดือน ส.ค. เป็นการสิ้นสุดการร่วงลง 4 เดือนติดต่อกัน แต่ราคายังคงร่วงลง 9.04% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากความพยายามของจีนที่เพิ่มการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน และจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณในประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ ทั่วโลก

• ยอดขายรถยนต์เดือน ก.ย. ในจีนลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลงเมื่อเทียบรายเดือนเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2011 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากข้อพิพาทระหว่างระหว่างจีนและญี่ปุ่น ทำให้ยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นดิ่งลง ส่วนยอดขายรถยนต์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 14.1 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน

• ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในในภาคอุตสาหกรรมว่า จีนน่าจะเริ่มให้เงินอุดหนุนรอบใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้านในพื้นที่ชนบทแล้ว

ทั้งนี้ จีนได้เปิดตัวแคมเปญให้เงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าใน พื้นที่ชนบทเมื่อปี 2550 ซึ่งการให้เงินอุดหนุนรอบแรกกำลังจะหมดอายุลงในเดือน ม.ค. 2556

• S&P เตือนว่า อินเดียยังคงเผชิญความเสี่ยง 1 ใน 3 ที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือภาย ใน 24 เดือนข้างหน้า แม้มีการผลักดันเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจที่เริ่มในเดือนที่แล้วก็ตาม โดยปัจจุบันอันดับความน่าเชื่อถือของอินเดียอยู่ที่ BBB- ซึ่งสูงกว่าสถานะขยะอยู่ 1 ขั้น และเป็นอันดับความน่าลงทุนต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีเศรษฐกิจ ขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย และ จีน (BRIC)

• ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ชี้ว่า สถานภาพทางเศรษฐกิจของไทยยังคงมีความยืดหยุ่นพอที่จะรับมือกับภาวะผันผวน ทั่วโลก แต่อัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นทั้งในภาคธุรกิจและสถาบันการเงินเป็น ปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตได้

• ธปท. จะออกประกาศแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้ายระยะแรกของปี 55-56 ธปท.ใน สัปดาห์หน้าซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที ซึ่งเน้นผ่อนคลายหลักเกณฑ์ให้ภาคธุรกิจหรือคนไทยลงทุนมากขึ้น โดยยกเลิกสัญญาป้องกันความเสี่ยงที่ทำไว้ได้ พร้อมเปิดทางให้เพิ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยเป็นนักลงทุนสถาบันสามารถ ไปลงทุนในต่างประเทศได้ไม่จำกัดจำนวน

Equity Market
-----------------



• SET Index ปิดที่ 1,289.35 จุด ลดลง 3.13 จุด หรือ -0.24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62,363.77 ล้านบาท (มีการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) หุ้น BGH มูลค่า 25,641.53 ล้านบาท) โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 8,966.86 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการปรับตัวลดลงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ซึ่งยังถูกกดดันด้วยปัจจัยจากปัญหาหนี้ในยุโรป ขณะที่ไม่มีปัจจัยบวกใหม่

• หลังจากที่ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นยื่นหนังสือถึงผู้บริหารช่อง 3 (BEC) เพื่อถามหาจุดยืนและข้อผูกพันกับภาคีฯ ในเรื่องความโปร่งใสและการต่อต้านคอร์รัปชั่น ในกรณีที่เกี่ยวกับไร่ส้มและผู้บริหารไร่ส้ม ราคาหุ้น BEC ในวันวานได้ลดลงจากวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งอยู่ที่ 61.25 บาท มาเป็น 58.50 บาท หรือลดลงมา 4.49%

ทั้งนี้ โพสท์ทูเดย์ ระบุว่า Toyota, SCC, Toshiba และ SCB มีแนวโน้มที่จะเลิกลงโฆษณากับรายการของ นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ในต้นปีหน้า หลังจากหมดสัญญาซึ่งผูกพันจนถึงสิ้นปีนี้

Gold Corner
---------------



• David Schectman (Miles Franklin) วิเคราะห์ว่า ธนาคารกลางในหลายๆ ประเทศกำลังสะ ชสมทองคำเพิ่มขึ้น เพราะเกรงว่าสินทรัพย์ที่มักลงทุนเป็นดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนใหญ่จะอ่อนค่าลง จากการที่ FED ปล่อย QE มาท่วมระบบการเงินโลก และทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ดีที่สุดเนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและสามารถรักษา อำนาจซื้อได้ แต่ธนาคารกลางต่างๆ จะไม่ค่อยเปิดเผยการเข้าซื้อขายทองคำ เราจึงรู้หลังจากธนาคารกลางได้ซื้อขายไปแล้ว

ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีน รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย และเกาหลีใต้ ต่างถือครองทองคำเป็นสัดส่วนของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ต่ำกว่า 10% จึงมีความพร้อมที่จะเข้าซื้อทองคำเพิ่มในจำนวนมาก

นอกจากนี้ จีนยังมีทองคำเพียง 1.7% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเท่านั้นทั้งๆ ที่มีทุนสำรองเงินตราต่าง ประเทศสูงที่สุดในโลก ดังนั้น แค่จีนประเทศเดียวก็สามารถทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นได้

และเมื่อทองคำมีจำนวนจำกัด หากธนาคารกลางต่างๆ ซื้อทองคำมากขึ้น ราคาทองคำก็จะขึ้นได้ด้วยเหตุผลนี้อีกด้วย


Guru Corner
---------------


•Mark Faber
---------------



“ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาทั้ง 2 คน ต่างไม่ได้เรื่องและเป็นของปลอม”

•Jim Rogers
---------------


“ทั้งโอบามา และ รอมนีย์ ต่างหลงเชื่อว่าตนเองรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทั้งสองคนจึงเป็นอันตรายมาก มันคล้ายกับว่าเมื่อเราไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ 2 คนนี้กลับเชื่อว่าเรามีปัญหาและมีทางแก้ให้ ซึ่งทางแก้ของเขาจะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง“


•Jim Sinclair
----------------


“ทองคำเป็นเงินตราของพระราชา เงิน (แร่เงิน) เป็นเงินตราของเจ้าชาย วิธีแลก เปลี่ยนสินค้ากันด้วยสินค้า (Barter) เป็นเงินตราของชาวไร่ชาวนา และหนี้สินเป็นเงินตราของพวกทาส”

•Peter Lynch
----------------


“ในธุรกิจบริหารเงินลงทุน คนเก่งจริงคือคนที่ทำถูกต้อง 6 ใน 10 ครั้ง เพราะธุรกิจนี้ไม่มีใครทำถูกได้มากถึง 9 ใน 10 ครั้ง”

“รีบลงทุนในธุรกิจที่คนโง่ที่ไหนก็ทำได้สำเร็จ เพราะไม่ช้าก็เร็วคนโง่ๆ อาจเข้าไปบริหารธุรกิจนั้นเข้าสักวัน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น