- กรีซ คาดหวังที่จะบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้เกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหม่และหวังว่าสหภาพยุโรปกับ IMF จะประสานความขัดแย้งกันในแนวทางลดหนี้กรีซได้ ก่อนที่ผู้นำ EU จะประชุมในวันที่ 18-19 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ กรีซกำลังเจรจาเรื่องการลดงบรายจ่ายและปฏิรูปประเทศครั้งใหม่เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลืองวดถัดไป ซึ่งหากไม่ได้รับ กรีซจะล้มละลายได้
- Ben Bernanke ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ชี้ว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจนที่แสดงว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเป็นพิเศษของ FED กำลังสร้างความเสียหายต่อประเทศในตลาดเกิดใหม่ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศตลาดเกิดใหม่ปล่อยให้สกุลเงินของตนเองแข็งค่าขึ้น เนื่องจากการแทรกแซงค่าเงินจะกระตุ้นให้มีเงินทุนจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาในประเทศเกิดใหม่จนเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพ
- ธนาคารกลางอิสราเอลสนับสนุนการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (QE) ของ FED เนื่องจากเศรษฐกิจโลกใกล้เผชิญภาวะถดถอย เพราะแม้จะมีความคืบหน้าในการออกมาตรการหลายอย่างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโลก แต่ในทางเทคนิคนั้น เศรษฐกิจยุโรปได้ถดถอยแล้ว และในช่วงที่เหลือของปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐก็จะขยายตัวได้เพียง 2%
- ยอดค้าปลีกสหรัฐเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 1.1% เป็นการปรับตัวขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน สะท้อนว่าผู้บริโภคมีมุมมองเป็นบวกขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัว โดยปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้เพิ่มสูงขึ้นคือยอด ขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พุ่งขึ้น 4.5% เนื่องมาจากการวางจำหน่าย iPhone 5
- อัตราเงินเฟ้อจีนเดือน ก.ย.อยู่ที่ 1.9% ต่ำสุดในรอบ 2 ปี (ส.ค.= 2.0%) หลังดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเดียวกันลดลง 3.6% ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 7 เดือน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า ธนาคารกลางจีนจะยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยอีก เพราะคาดว่าผลของ QE3 จะกดดันเงินเฟ้อ
- เกาหลีใต้เกินดุลการค้าเดือน ก.ย. 3.07 พันล้านดอลลาร์ โดยนำเข้าและส่งออกลดลง 6.1% กับ 2.0% ตามลำกับ ทั้งนี้ เกาหลีใต้ส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มขึ้น 22.1% และ 13.2% ขณะที่ยอดส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ และเครื่องจักรอุตสาหกรรมลดลง 11% 4.5% และ 4.1% ตามลำดับ
- อัตราเงินเฟ้ออินเดียเดือน ก.ย.อยู่ที่ 7.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า จากราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น 8.6% ทำให้เป็นไปได้ยากที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ สมทบทุน 60 ล้านดอลลาร์ให้กองทุนของธนาคารโลกเพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนให้ปรับปรุงการผลิตด้านการเกษตร หลังจากเกิดวิกฤติราคาอาหารในปี 2008 ซึ่งบ่งชี้ว่ายังมีการลงทุนในระดับต่ำในภาคเกษตรของประเทศกำลังพัฒนา โดยขณะนี้กองทุนได้จัดสรรเงิน 481 ล้านดอลลาร์ให้กับ 12 ประเทศในแอฟริกา เอเชีย และ แคริบเบียน
- Soft Bank Corp ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ตกลงซื้อหุ้น 70% ใน Sprint ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมของสหรัฐ มูลค่า 20.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นการซื้อกิจการบริษัทสหรัฐโดยบริษัทญี่ปุ่นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยปรากฎ
- Air Asia สายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่ของอาเซียน ยกเลิกแผนซื้อกิจการสายการบินบาตา เวียของอินโดนีเซียมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเห็นว่ามีความเสี่ยงมากเกินไปและอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ แต่ยังคงมีแผนขยายธุรกิจในอินโดนีเซียโดยคงแผนการจำหน่ายหุ้น IPO และยังคงร่วมมือทางธุรกิจกับบาตาเวียอย่างใกล้ชิด
- รมว.คลังเอเชียและยุโรป ได้หารือแนวโน้มเศรษฐกิจกับการพัฒนาเศรษฐกิจและการเงินของเอเชียและยุโรป โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และย้ำถึงบทบาทของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกด้วยการกระตุ้นการบริโภคภาคเอกชนพร้อมทั้งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนอุปสงค์ภายในประเทศและการขยาย ตัวของเศรษฐกิจ
- ก.คลัง มั่นใจว่า อันดับความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทยจะมีโอกาสถูกปรับเครดิตเรทติ้งเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ Moody’s และ S&P จะเข้ามาเก็บข้อมูลของไทยอีกครั้งในเดือน พ.ย.นี้ โดยยังห่วงเรื่องปัญหาการเมืองภายในประเทศ และความชัดเจนของนโยบายภาครัฐที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้
- กรุงเทพโพลล์ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 45.18 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 จุด 4 ครั้งติดต่อกัน
แสดงว่าเศรษฐกิจอ่อนแอต่อเนื่องนับจากต้นปีซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออก ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะแย่ลงอีกเมื่อเทียบกับปัจจุบัน จากการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชน
- กสทช.เตรียมเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ในวันนี้ หลังศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้องกรณีนักวิชาการอิสระยื่นคำร้องให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G รวมถึงไม่รับไต่สวนฉุกเฉินคำฟ้องที่ให้ระงับการประมูลดังกล่าวของกลุ่มนายสุริยะใส กตะศิลา ด้วยเช่นกัน
- โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ธปท. ยังไม่ควรลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจไทยกำลังอ่อนแอ
ส่วนเรื่องที่กังวลว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในระดับสูงนี้จะทำให้เกิดภาวะเงินทุนไหลเข้านั้น เชื่อว่า ธปท.จะจัดการได้ เพราะผ่านมาได้ทั้ง QE 1 และ QE2
• SET Index ปิดที่ 1,290.56 จุด ลดลง 6.42 จุด หรือ -0.49% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26,693.83 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,924.54 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังนักลงทุนรอผลการตัดสินของศาลปกครองกรณี 3G และกรณีร้องเรียนให้ ปตท.โอนคืนท่อก๊าซ
สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนีจะผันผวนในกรอบแคบ แม้ศาลปกครองจะยกคำร้องและสามารถประมูลคลื่นความถี่ 3G ต่อไปได้ โดยมีปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยมาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปที่ยังไม่มีทิศทางการแก้ไขที่ดีขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐอาจได้รับแรงกดดันในสัปดาห์นี้จากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น