หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 4/10/55

General News
-----------------


• ยูโรสแตทรายงานยอดค้าปลีกในยูโรโซนในเดือน ส.ค.ว่าขยับขึ้น 0.1% จากเดือน ก.ค. แม้จะเพิ่มขึ้นดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.1% แต่หากเทียบกับช่วงเดือน ส.ค.ปีที่แล้วก็ลดลง 1.3% ทั้งนี้ อัตราว่างงานยังเพิ่มขึ้นท่ามกลางมาตรการรัดเข็มขัดของภาครัฐบาล และความต้องการสินค้าส่งออกของยูโรโซนยังคงอ่อนแอ

• มาร์กิต รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.ย.ของยูโรโซนยังคงมีแนวโน้มหดตัวลง โดยเยอรมนีมีดัชนีอยู่ที่ 49.7 จุด ปรับตัวขึ้นจาก 48.3 จุดในเดือน ส.ค. อิตาลี อยู่ที่ 44.5 จุด ปรับตัวขึ้นจาก 44.0 จุดในเดือน ส.ค. และสเปนอยู่ที่ 40.2 จุด ลดลงจาก 44.0 จุดในเดือน ส.ค. 

แสดงว่า เศรษฐกิจภาคบริการของเยอรมนีและอิตาลียังคงมีแนวโน้มหดตัวแต่ด้วยอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจภาคบริการของสเปนหดตัวลงต่อ เนื่อง และด้วยอัตราที่เร่งตัวมากขึ้น

• มูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส เปิดเผยว่า กำลังทบทวนฐานะการเงินของสเปนเรื่องความจำเป็นต้องเพิ่มทุนของธนาคารและกลไกสนับสนุนต่างๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจต้องปรับลดอันดับเครดิตของสเปนลงเหลือ Baa3 

ทั้งนี้ สเปนเพิ่งเปิดเผยแผนงบประมาณปี 2556 และเปิดเผยเรื่องรัฐบาลมีภาระทางการเงินในการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคาร ซึ่งทางมูดี้ส์คาดว่าธนาคารพาณิชย์ในสเปนจะต้องการเงินช่วยเหลือรวม 70,000-105,000 ล้านยูโร

• ดัชนี US ISM Non-Manufacturing ของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 55.1 จุด จากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 53.7 จุด และเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 6 เดือน ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดกันว่าจะอยู่ที่ 53.2 จุด บ่งชี้ว่าธุรกิจภาคบริการในสหรัฐฯ ยังขยายตัวได้ค่อนข้างดี

• ADP รายงานว่า การจ้างงานภาคเอกชนทั่วสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 162,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 143,000-153,000 ตำแหน่ง ซึ่ง ADP ระบุว่า การจ้างงานในภาคบริการเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่ง แต่ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเพียง 4,000 ตำแหน่งเท่านั้น และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นของธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง

• องค์กสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือน ก.ย. อยู่ที่ 53.7 จุด ลดลง 2.6 จุดจากเดือนก่อนหน้า 

แสดงว่าธุรกิจภาคการบริการของจีนชะลอตัวลง ซึ่ง CFLP คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องในระดับปานกลางและจะเป็นบทบาทสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของจีนให้มีเสถียรภาพ

• ออสเตรเลียน อินดัสทรี กรุ๊ป (Ai Group) รายงานว่า ดัชนีภาคการบริการของออสเตรเลีย (PSI) อยู่ที่ 41.9 จุดในเดือน ก.ย. ลดลง 0.5 จุดจากเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ว่ากิจกรรมในภาคบริการของออสเตรเลียหดตัวลงมากขึ้น เนื่องจากความอ่อนแอในธุรกิจภาคการผลิต ภาคก่อสร้างและเหมืองแร่ ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อกิจกรรมภาคบริการไปด้วย

• ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในปีนี้และปีหน้า เหลือขยายตัว 6.1% และ 6.7% ตามลำดับ ลดลงจากการที่คาดในเดือน เม.ย. ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6.9% ในปีนี้ และ 7.3% ในปีหน้า โดยชี้ว่าเศรษฐกิจโลกที่ซบเซากับความต้องการบริโภคภายในจีนกับอินเดียที่อ่อนแอลง ส่งผลให้อัตราการเติบโตชะลอลง 

นอกจากนี้ ยังคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ 7.7% ในปีนี้ และ 8.1% ในปีหน้า ส่วนการขยายตัวของอินเดียจะชะลอลงอยู่ที่ระดับ 5.6% ในปี 2555 และ 6.5% ในปี 2556

• หลังเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ พม่าได้เตรียมขยายเพิ่มนิคมอุตสาหกรรมอีก 7 แห่งตามแผนเพิ่มเขตอุตสาหกรรมเป็น 25 แห่งจากเดิมที่มีอยู่ 18 แห่ง โดยทั้ง 7 แห่งจะอยู่ที่กรุงเนย์ปีดอว์ มัณฑะเลย์ มายาวาดี รัฐคะฉิ่น รัฐฉาน 

นอกจากนี้ พม่ายังได้โครงการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมพิเศษในเมืองย่างกุ้งซึ่งกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นได้ทำข้อตกลงพัฒนาแล้ว ชื่อโครงการ Thilawa SEZ โดยจะมีพันธมิตรญี่ปุ่น 3 รายได้แก่ มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น มารูบินีคอร์ปอเรชั่น และ ซูมิโตโม่คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 49% ส่วนที่เหลือจะถือหุ้นโดยรัฐวิสาหกิจเฉพาะกิจของพม่า

• ฐานะการคลังของภาครัฐบาลไทยในไตรมาสที่ 3 (เม.ย.-มิ.ย.55) ปีงบประมาณ 2555 เกินดุลกว่า 1.4 แสนล้านบาท เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2555 (ต.ค.54-มิ.ย.55) มีดุลการคลังภาครัฐบาลขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งขาดดุลมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 2.2% ของ GDP แต่เป็นไปตามนโยบายการคลังของรัฐที่ต้องการใช้จ่ายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 

• ม.หอการค้าไทยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตได้ที่ 4.5%-5.0% โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากภาครัฐ ทั้งการเบิกจ่ายงบบริหารจัดการน้ำในวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท และการใช้งบประมาณรายจ่ายที่ขาดดุล รวมทั้งการยืนยันใช้นโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล 

นอกจากนี้ เชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวจะส่งเสริมเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม เนื่องจากประเมินว่าผลของกรณีพิพาทระหว่างญี่ปุ่นและจีนจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น

• เอดีบีปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในปีนี้เหลือขยายตัว 5.2% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 5.5% และปรับลด GDP ปีหน้าลงเหลือ 5% จาก 5.5% โดยคาดว่าการส่งออกของไทยจะเติบโตแค่ 5% ในปีนี้ ก่อนที่ขยายตัวดีขึ้นในปีหน้า และสินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากความต้องการที่อ่อนแอลงจากต่างประเทศ ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ยางธรรมชาติ และ ข้าว

Equity Market
-----------------



• SET Index ปิดที่ 1,307.55 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด หรือ 0.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39.347 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,095 ล้านบาท โดยเริ่มมีการขายทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่ปรับขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มสื่อสารและธนาคาร ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงอ่อนตัวจากปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นบางตัวในกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ช่วยให้ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย

• Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ได้รับ iPhone5 จาก Tim Cook, CEO ของ Apple โดยไม่ต้องไปยืนเข้าแถวรอคิวเหมือนผู้อื่น

Fixed Income Market
-------------------------



• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงช่วงระหว่าง -0.08% ถึง 0.00% โดยเฉพาะรุ่นที่อายุมากกว่า 1 ปีมีอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก 

Guru Corner
---------------



• “ผมจะไม่พูดว่าผมเตือนคุณแล้ว แต่ผมก็ทำมันไปแล้วจริงๆ” … Nouriel Roubini

• “รากฐานของปัญหาในฝรั่งเศสก็เหมือนกับที่เกิดในประเทศชายขอบยูโรโซนในวันนี้” … Nouriel Roubini

• “มีใครรู้จักเศรษฐีเงินล้านที่ร่ำรวยขึ้นมาได้จากการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวบ้าง” … Robert G. Allen

• “ในบางครั้ง ตลาดก็สามารถทำสิ่งโง่ๆ ที่ทำให้เราอ้าปากค้างได้” (ไม่มีอะไรแน่นอนในโลกของการลงทุน ทุกอย่างมีความเสี่ยงทั้งนั้น จงเตรียมตัวรับทั้งขาขึ้นและขาลงให้ได้ และในหลายๆ ครั้ง พฤติกรรมในตลาดก็เป็นพฤติกรรมซื้อขายที่เราเห็นว่าไม่น่าจะเกิด แต่นั่นก็คือ Mr.Market) … Jim Cramer

• “มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะทำเงินได้เท่าไร สิ่งสำคัญจริงๆ คือเราจะเก็บเงินได้เท่าไหร่ เงินนั้นจะทำงานให้เราได้แค่ไหน และเราจะเก็บไปได้สักกี่ชั่วอายุคน” (ถ้าเป็นเศรษฐีได้ตั้งแต่อายุเพียง 30 ปี แต่เงินหมดไปเมื่ออายุ 40 เราก็ไม่ได้อะไรเลย ดังนั้น การทำให้พอร์ตลงทุนเติบโตและได้รับการปกป้องด้วยวิธีกระจายการลงทุน จะทำให้เงินของเราสามารถโอบอุ้มลูกหลานไปได้อีกหลายเจเนอเรชั่น) … Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือ หนังสือพ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น