General News
-----------------
• ธ.กลางสวีเดน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลงไปอยู่ที่ 1.00% และกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนี้จะยังคงตัวในระดับต่ำไปถึงปีหน้า เนื่องจากปัญหายุโรปยังถ่วงเศรษฐกิจของประเทศ อัตราว่างงานเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
• อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. โดย ดรรชนีราคาผู้บริโภค
ปรับตัวสูงขึ้น 2.7% จากราคาค่าบริการสาธารณูปโภคและอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น
• ประธานาธิบดีโอบามา ยื่นข้อเสนอใหม่ในการหลีกเลี่ยงภาวะหน้าผาทางการเงิน โดยให้เพิ่มภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดาผู้มีรายได้ 400,000 ดอลลาร์/ปีขึ้นไป ลดงบประมาณค่าใช้จ่ายลง 1.22 ล้านล้านดอลลาร์ และขอขยายเพดานการก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางออกไปอีกสองปี
• ก.คมนาคมของสหรัฐ รายงานว่า รายได้สายการบิน 9 รายใหญ่ของสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยมีผลกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 1.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีนี้ สูงกว่าไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 670.2 ล้านดอลลาร์ และสูงกว่าปีที่แล้วซึ่งเป็น 909.2 ล้านดอลลาร์ นับเป็นสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐ เนื่องจากคนมีการจับจ่ายใช้สอยทั้งในด้านการเดินทางส่วนตัวและเพื่อธุรกิจการค้า
• ชินโสะ อาเบะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนถัดไป เปิดเผยว่า รัฐบาลชุดใหม่ของเขา ตั้งใจจะจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมจำนวนมาก เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืด และต้องการเสนอเป้าหมายเงินเฟ้อกับธนาคารกลางญี่ปุ่น ที่ 2% เพื่อช่วยให้เงินเยนอ่อนค่าลงและหนุนราคาหุ้นให้สูงขึ้น
• จีนกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจปีหน้าไว้ที่ 7.5% เช่นเดียวกับปีนี้ และกำหนดกรอบอัตราเงินเฟ้อไม่เกิน 3.5% ซึ่งต่ำสุดนับแต่ปี 2010 แต่รัฐบาลจีนยังไม่ได้กำหนดกรอบปริมาณสภาพคล่องและการปล่อยสินเชื่อใหม่ สะท้อนให้เห็นว่าจีนตั้งใจจะมุ่งเน้นการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพ
• ส.สถิติแห่งชาติจีนเผยว่า ราคาบ้านในมณฑลต่างๆ ของจีนเดือน พ.ย.สูงขึ้นใน 53 เมือง เพิ่มขึ้นมากกว่าเดือน ต.ค. ที่เพิ่มสูงขึ้นใน 35 เมือง ท่ามกลางมาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาลเพื่อบรรเทาปัญหาในธุรกิจที่อยู่อาศัย
• ปริมาณการใช้ไฟของชุมชนจีนขยายตัว 7.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือน พ.ย. โดยฟื้นตัว อย่างต่อเนื่อง 2 เดือนติดกัน และเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. ตอกย้ำถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
• The Financialist ซึ่งเป็นแมกกาซีนดิจิตัลของ Credit Suisse ระบุใน Global Wealth Report ว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีเศรษฐีเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมากจากประเทศที่กำลังพัฒนา เช่น ...
จีน และบราซิล โดยจีนจะมีคนรวยเงินล้านเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 964,000 ราย เป็น 1,901,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นถึง 97%
บราซิลจะเพิ่มจาก 227,000 เป็น 497,000 ราย หรือ 119%
รัสเซียกับมาเลเซียจะมีอัตราการเพิ่มของจำนวนคนมั่งมีเป็น 109% และ 108% ภายในปี 2017
• ธ.กลางอินเดีย คงอัตราส่วนกันสำรองทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ไว้ที่ 4.25% หลังจากลดลงครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา และคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 8% โดยเป็นการคงไว้ 5 ครั้งติดกัน เนื่องจากยังจำเป็นต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่ากรอบเป้าหมาย
• รัฐบาลฟิลิปปินส์ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4 แม้จะได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นโบพาซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในภาคใต้ โดย GDP ของฟิลิปปินส์ในปีนี้อาจขยายตัวสูงกว่าเป้าหมายที่ 5-6% เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศมีเสถียรภาพ และมีการขยายตัวของภาคบริการ
• ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 5 ขั้น เป็น 7 ขั้น และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากอัตราสูงสุดร้อยละ 37 เป็นร้อยละ 35 ทั้งนี้ ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2556 ที่จะต้องยื่นรายการในปี 2557 เป็นต้นไป
Equity Market
--------------------
• SET Index ปิดที่ 1,362.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.85 จุด หรือ +0.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41,994.75 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,289.05 ล้านบาท โดยดัชนีค่อนข้างผันผวนระหว่างวัน แต่ก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้งในช่วงท้ายตลาด จากความคาดหวังการเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff เป็นไปด้วยดี
Fixed Income Market
---------------------------
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง 0.00% ถึง 0.04%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น