หน้าเว็บ

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข่าวเช้าจากบัวหลวง 12/6/56

General News

• องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจเผยว่า ดัชนีชี้วัดโดยรวมบ่งชี้ถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ นำโดยการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐและญี่ปุ่น สำหรับเยอรมนี ดัชนีได้บ่งชี้ถึงการกลับมาขยายตัวในระดับแนวโน้มในขณะที่ดัชนีของอิตาลีบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราการขยายตัวในเชิงบวก แต่อย่างไรก็ดี ดัชนีไม่ได้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆในฝรั่งเศส

• ฝรั่งเศสเรียกร้องให้สนามบินที่สำคัญภายในประเทศปรับลดตารางเที่ยวบินลงครี่งหนึ่งก่อนการผละงานประท้วงเป็นเวลา 3 วันของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ และจะขยายไปทั่วทั้งยุโรปในวันพุธ โดยการประท้วงดังกล่าวมีขึ้นหลังคณะกรรมาธิการยุโรปด้านคมนาคมได้เรียกร้องให้เร่งดำเนินการตามแผนการรวมศูนย์การควบคุมท้องฟ้าของยุโรป เนื่องจากความไร้ประสิทธิภาพของยุโรปส่งผลให้สายการบินและผู้โดยสารมีต้นทุนถึงปีละ 5 พันล้านยูโร

• สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเผยผลผลิตโรงงาน สาธารณูปโภค และเหมืองเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. จากระดับเดือน มี.ค. ขณะที่การผลิตปรับตัวลง 0.2% หลังจากที่ขยายตัวในช่วงเดือน ก.พ. และ มี.ค. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณเพิ่มเติมที่ว่า เศรษฐกิจกำลังขยายตัวขึ้นหลังจากที่หวนคืนสู่การขยายตัวได้เมื่อไตรมาสแรก

• เยอรมนี ออกมาเรียกร้องให้เร่งแก้ไขปัญหาด้านการค้าระหว่างสหภาพยุโรป หรือ อียู กับประเทศจีน ที่กำลังย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ โดยทางการเยอรมนีแนะนำว่าควรจะใช้วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นมิตร และดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับภาษีการนำเข้ารถยนต์ที่ส่อแววว่าอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัวในไม่ช้านี้

• สถาบันผู้สำรวจที่ได้รับอนุญาตของอังกฤษ RICS เปิดเผยว่าผลสำรวจราคาบ้านในอังกฤษพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในเดือน พ.ค. โดยดัชนีราคาบ้านเดือน พ.ค.ปรับขึ้นสู่ระดับ +5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ปี 2553 และเพิ่มขึ้นจาก +1 ในเดือน เม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่สูงสุดนับแต่ต้นปี 2553 นอกจากนี้ RICS ยังคาดว่าราคาบ้านมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทั่วทุกภูมิภาคในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการจูงใจของรัฐบาล

• ธ.กลางญี่ปุ่น มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ โดยบีโอเจยังระบุอีกว่าเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้น พร้อมกับยืนยันว่า บีโอเจจะเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี และบีโอเจจะหลีกเลี่ยงมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดความผันผวนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลและเพื่อควบคุมการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

• ก.การคลังญี่ปุ่นระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 2/2556 ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เพราะได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้น อันเนื่องมาจากความคาดหวังที่ว่าอุตสาหกรรมส่งออกจะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากเงินเยนอ่อนค่าลง ทั้งนี้บริษัทขนาดใหญ่และขนาดเล็กในอุตสาหกรรมทุกประเภทจึงวางแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านทุนอีก 7.2% ในปีงบการเงินปี 2556 ซึ่งสูงกว่าปีงบการเงินปีที่แล้ว

• นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่นตัดสินใจในวันนี้ ที่จะยกเว้นข้อกำหนดในการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวไทยและมาเลเซีย รวมทั้งอนุมัติให้มีการออกวีซ่าประเภทที่สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศได้หลายครั้ง (multiple-entry) สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะเริ่มต้นในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศอีก 2.5 เท่า จากระดับปัจจุบัน เป็น 2 ล้านคนภายในปี 2559

• ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องที่จะดำเนินงานร่วมกันเพื่อมุ่งสู่การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดสระแก้ว และอีกแห่งในจังหวัดเกาะกง ติดกับจังหวัดตราด เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนตลอดแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งยังเห็นพ้องที่จะเร่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน 1,800 เมกะวัตต์ในจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา

• ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง ธปท.ยังอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าภาคอสังหาริมทรัพย์มีความร้อนแรงแค่ไหน เพราะยอมรับบางพื้นที่ค่อนข้างร้อนแรง แต่เบื้องต้นเห็นว่าอาจยังไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลมากจนเกินไป เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจด้านอื่นเริ่มมีแนวโน้มชะลอลงในขณะนี้ ซึ่งจะช่วยเป็นตัวถ่วงดุลไว้อีกทางหนึ่ง

Equity Market


• SET Index ปิดที่ 1,452.63 จุด ลดลง 75.92 จุด หรือ -4.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64,942.69 ล้านบาท โดยดัชนีปรับตัวลงแรงสุดในภูมิภาค ในทิศทางเดียวกับประเทศในกลุ่ม TIP เป็นผลจากเงินทุนต่างชาติไหลออก ส่งผลให้ดัชนีหลุดแนวรับหลัก 1,480 จุด และหุ้นหลักเผชิญกับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ADVANC -6.0%, KBANK -6.2%, BBL -4.7%, INTUCH -4.1%, PTT -3.9% รวมถึงกลุ่มธนาคารและอสังหาฯ ได้ปรับตัวลงแรง SCB -6.3%, KBANK -6.2%, KTB -5.3%, BBL -4.7%, PS -8.9%, AP -8.7%, QH -8.7%

• HANG SENG ปิดที่ระดับ 21,354.66 จุด ลดลง -1.2% ปิดลบที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. นำโดยหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง โดยกลุ่มการเงินและอสังหาฯปรับตัวลงแรง Shimao Property Holdings -4.0%, Hang Lung Properties -3.8% เนื่องจากยอดขาย 42% มาจากจีน /Bank of China -3.0%, Agricultural Bank of China -1.7%, ICBC -1.3% และ Cathay Pacific Airways -1.6% หลังยกเลิกเที่ยวบินไปยังปารีส จากเหตุการณ์ประท้วงหยุดงานของสนามบินในฝรั่งเศส

สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม

กลุ่มนักลงทุน ล้านบาท
นักลงทุนสถาบัน 2,172.00
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -3,699.29
นักลงทุนต่างชาติ -5,481.55
นักลงทุนทั่วไป 7,008.85

Fixed Income Market

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเคลื่อนไหวในช่วง 0.00% ถึง 0.24% โดยพันธบัตรอายุ 5-15 ปีมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น